รถเฉี่ยวหน่อยเดียว 2 โจ๋รุมสกรัมทนายความพัทยาจนเลือดคั่งในสมอง!

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับรายงานว่า มีทนายความถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.กรุงเทพพัทยา โดยชนวนเหตุมาจากรถยนต์ของทนายความดังกล่าวเกิดไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น จึงเกิดความไม่พอใจถึงขั้นใช้อาวุธทำร้ายทนายจนเลือดตกยางออก

เมื่อไปถึงพบนายศักดิ์ชัย อำนวยพรไพศาล อายุ 49 ปี อาชีพทนายความ นอนอยู่บนเตียงในสภาพอิดโรย เบ้าตาขวาเขียวช้ำ ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง ซึ่งทางแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและพบว่านายศักดิ์ชัย มีอาการเลือดคั่งในสมอง ต้องนอนพักรักษาตัวและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

นายหลักชัย กรวิชญ อายุ 52 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายศักดิ์ชัย ผู้บาดเจ็บ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ขณะที่น้องชายขับรถกระบะเดินทางกลับบ้านในซอยโรงไม้ขีด ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง กระทั่งไปถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคพัทยา ได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่มีชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน อายุราว 20-25 ปี ขับมา เดชะบุญไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ระหว่างที่น้องชายเปิดประตูรถลงไปดูวัยรุ่นทั้งสองคนว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ แทนที่วัยรุ่นทั้งสองคนจะพูดคุยเจรจาดีๆ กลับคว้าท่อนไม้ในละแวกดังกล่าวมาเป็นอาวุธ แล้วรุมตีนายศักดิ์ชัยจนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดคั่งในสมองก่อนที่จะหลบหนีไป

นายหลักชัย ยังเผยอีกว่า ปกติน้องชายเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ซ้ำยังชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากเป็นประจำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้โดยส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากเป็นแค่เรื่องอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันเล็กน้อย และวัยรุ่นทั้งสองคนเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่ถูกรุมตี

ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนมาเตือนให้น้องชายระมัดระวังตัว แต่น้องบอกว่าไม่เคยผิดใจกับใครทำไมต้องระวังตัว จนกระทั่งมาถูกทำร้ายร่างกายดังกล่าว เป็นไปได้ว่าเรื่องนี้อาจมีที่มาจากการทำงานของน้องชาย ที่ปกติเป็นคนตรงไปตรงมา เลยคิดว่าน่าจะทำให้คู่ความไม่พอใจเลยจ้างให้วัยรุ่นทำทีขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยว พอได้จังหวะจึงรุมสกรัมแล้วหลบหนีไป ตนถือว่ากรณีนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจ คนร้ายกล้าทำในสถานที่ชุมชนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ช่วยติดตามจับกุมวัยรุ่นทั้งสองคนมาสอบสวนโดยเร็วเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป