สาวโอดโดนผัวกระทืบสุดโหด แบกร่างช้ำๆ ไปแจ้งความรอ 10 ชั่วโมง
สาวเจ้าของร้านนวดที่แปดริ้ว โดนสามีที่เพิ่งคบหากันเพียง 10 เดือน ออกลายทำร้ายกระทืบข้างถนน แบกร่างไปแจ้งความก็ล่าช้ามาก รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ
เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.นิ่ม (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เจ้าของธุรกิจร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และยังเป็นว่าที่ผู้เตรียมลงสมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคการเมืองหนึ่ง ระบุว่า ถูกสามีคือ นายนิรุตต์ อายุ 40 ปี ทำร้ายร่างกายอย่างเหี้ยมโหด
น.ส.นิ่ม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายนิรุตต์ ที่เพิ่งจะอยู่กินด้วยกันราวๆ 10 เดือน ได้เข้ามาทำร้ายตบตีที่หน้าร้านนวด ก่อนจะกระทืบเหยียบหน้าอกและใบหน้า ก่อนจะจิกหัวตบอย่างทารุณ ทำให้ร่างกายมีแผลฟกช้ำหลายจุด ดวงตาปูดบวม มีแผลที่เหนือคิ้วข้างซ้าย ต้องเย็บ 6 เข็ม
หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ยังที่ สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตอนเวลา 15.00 น. แต่กระบวนการสอบสวนและการรับแจ้งความร้องทุกข์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าช้ามาก กว่าจะทำการสอบสวนแล้วเสร็จและสามารถเดินทางกลับบ้านได้ ลากยาวไป 10 ชั่วโมง จนถึงเวลา 01.00 น. ของวันถัดไป
ขณะที่ล่าสุด ตนได้เดินทางเข้าไปแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจยึดอาวุธปืนของอดีตสามี ที่อยู่ภายในบ้าน เพราะเกรงว่าอดีตสามีอาจจะย้อนกลับมาและนำอาวุธมาใช้ทำร้ายถึงชีวิตได้ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย นำโดย พ.ต.ท.ชัยรัชช์กิตติ์ ชัยปฏิวัติ สารวัตรสืบสวน สภ.บางคล้า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เวรอำนวยการ เดินทางเข้ามาทำการตรวจยึดอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดกระบอกดังกล่าวไป
โดยคนในครอบครัวตนเองต้องการที่จะทำการถ่ายคลิปภาพเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทำการนำอาวุธปืนออกจากบ้านไปแล้ว แต่กลับถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อว่า ทั้งยังสั่งห้ามสื่อมวลชนทำการบันทึกภาพ โดยอ้างว่าเป็นเพียงแค่คดีเล็กน้อยภายในครอบครัว ทั้งที่ตนในฐานะเจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหาย อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวได้
สำหรับตนคิดว่าเป็นสิทธิ์ที่ตนนั้นสามารถที่จะกระทำได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้างคล้า กลับมีพฤติกรรมและการปฏิบัติต่อประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ไปแจ้งความร้องทุกข์เพราะถูกทำร้ายร่างกายก็ล่าช้าผิดปกติ ทำให้ตนเองรู้สึกว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.เดชฤทธิ์ ศรีคชา สารวัตรสอบสวนเวรประจำวันที่ สภ.บางคล้า ได้รับคำชี้แจ้งว่า เหตุที่การปฏิบัติหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวนเวรเมื่อวานนี้ล่าช้านั้น เนื่องจากมีคดีเกิดขึ้นหลายคดีพร้อมกันในพื้นที่ และทาง สภ.บางคล้า นั้นมีพนักงานสอบสวนเข้าเวรบริการประชาชนแค่เพียง 1 นายเท่านั้น
ส่วนเรื่องอาวุธปืนหลังจากที่ได้ทำการลงบันทึกการตรวจยึด และลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว ทางเจ้าของบ้านนั้นสามารถที่จะขอถ่ายสำเนาการลงบันทึกประจำวันจากการตรวจยึดอาวุธปืนเอาไว้ได้อยู่แล้ว พ.ต.ท.เดชฤทธิ์ กล่าว
ขณะที่ ร.ต.อ.ประมวล พูลศิลป์ รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีนี้ว่า ได้ทำการรับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว และได้มีการส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปให้ทางแพทย์ทำการตรวจร่างกายแล้ว ซึ่งยังต้องรอใบรับรองผลการตรวจจากทางแพทย์ และรอการนัดสอบปากคำจากผู้เสียหาย ตลอดจนพยานอีก 2 ปากที่อยู่ในเหตุการณ์
ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นทราบว่าได้เข้ามาขนของออกจากบ้านไปแล้ว ซึ่งก็จะทำการออกหมายเรียกตัวให้มาสอบปากคำ ซึ่งหากออกหมายเรียกไปแล้วไม่มาตามนัดก็จะทำการออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุในข้อกล่าวหาอะไรบ้างนั้น ยังต้องรอผลจากใบรับรองการตรวจของแพทย์ก่อน