หมอ 4 โรงพยาบาลยันสลายม็อบเสื้อแดง ไม่มีตาย

หมอ 4 โรงพยาบาลยันสลายม็อบเสื้อแดง ไม่มีตาย

หมอ 4 โรงพยาบาลยันสลายม็อบเสื้อแดง ไม่มีตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แพทย์4โรงพยาบาลแจง สลายม็อบเสื้อแดง "ไม่มีตาย" แถมไม่พบถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม ระบุ กรณี "ไสว ทองอ้น" ม็อบเข้าใจผิด หมอช่วยชีวิตทัน ส่วนพลทหารบ้านแม่ทัพ1 ฟันธง "คอหัก"

ที่รัฐสภาเมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเป็นวันที่ 3 โดยมีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน คณะกรรมการฯ โดยได้เชิญผู้อำนวยการ 4โรงพยาบาล ที่ได้รับรักษาผู้บาดเจ็บ ได้แก่ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) มาชี้แจง

โดยช่วงแรก น.พ. นำชัย คุณธารากรณ์ ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้ชี้แจงว่า ทางโรงพยาบาลได้รับการรักษาทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและทหาร โดยส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธที่มีอำนาจทำร้ายล้างต่ำเช่นอาวุธปืน 9มม. แต่ทั้งนี้ไม่ได้สอบถามผู้บาดเจ็บว่าใครเป็นผู้ทำร้ายและใส่เสื้อสีอะไร นอกจากนี้ทหารส่วนใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย มาจากกองทัพภาคที่ 2 จ. ปราจีนบุรี ส่วนผู้ชุมนุมที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกมีจำนวน 3 ราย ซึ่งขณะนี้ยังเหลือพรรครักษาตัวอยู่ 1 ราย ทั้งนี้จากการสลายการชุมนุมไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิต โดยมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 138 คน และขณะนี้ยังมีผู้ที่ได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน กระจายตามโรงพยาบาลต่างๆ

จากนั้นกรรมการฯ จากพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ได้ซักถามว่ากระสุนที่พบในระหว่างการรักษาได้มาจากร่างกายผู้บาดเจ็บหรือสถานที่เกิดเหตุ อีกทั้งกระสุนดังกล่าวเป็นกระสุนปลอมหรือกระสุนจริง ซึ่ง น.พ.นำชัย ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้พบเป็นกระสุน แต่พบเป็นเศษโลหะพร้อมเขม่าบนร่างกาย ซึ่งไม่คิดว่าเป็นอาวุธสงคราม เพราะถ้าเป็นอาวุธสงครามจริงบางแผลเข้าจะต้องมีรูเล็ก และด้านทะลุออกจุต้องมีรูใหญ่ และกระดูกจะต้องแตกละเอียด

ต่อมา พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส. นครราชสีมาพรรคเพื่อไทย ได้ถามถึงการเสียชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุข ในบ้านพักแม่ทัพภาค 1 ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ และมีบาดแผลที่มือหรือส่วนอื่นๆ บนร่างกายหรือไม่ เพราะจากวัยที่ยังอายุน้อยน่าจะประคองตัวระหว่างล้มลงได้ ขณะที่นายบรรจบ รุ่งโรจน์ กรรมการฯ ถามว่าเหตุใดการเสียชีวิตของพลทหารอภินพในใบมรณะบัตรจากโรงพยาบาลรามาธิบดีจึงระบุว่าเสียชีวิตจากการคอหัก ซึ่งต่างจากข้อสรุปของโรงพยาบาลศิริราช

น.พ. วิชาญ เปี้ยวนิ่ม แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลรามาฯ กล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่ชันสูตรศพเนื่องจากผู้ตาย ๆ ในลักษณะตายผิดธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องมีการชันสูตร โดยผู้ตายได้เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ และมาถึงโรงพยาบาลรามาฯ ในเวลา 19.00 น. ของวันที่เสียชีวิต โดยสาเหตุการตายคือกะโหลกศีรษะด้านซ้ายบริเวณท้ายทอยแตกร้าวไปจนถึงกระดูกสันหลัง มีเลือดออกเยื่อหุ้มสมองด้านนอก 2 มม. ก้อนเลือดกดสมอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อศีรษะ

ขณะที่ นพ.นิติกร โปริสวาณิชย์ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นเราไม่ได้รับรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม และไม่แน่ใจว่าผู้ที่เสียชีวิต 2 ศพ บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา 2 ศพเกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือไม่ ส่วนพลทหารอภินพที่ได้ขอให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น เป็นการร้องขอจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งทางโรงพยาบาลศิริราชไม่ได้ชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติมใหม่ แต่เป็นการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเท่านั้น ซึ่งการตรวจสอบส่วนใหญ่ตรงกับ น.พ.วิชาญ ส่วนกรณีที่ระบุว่าคอหัก ตนเห็นว่าน.พ.วิชาญได้ชี้แจงจนกระจ่างแล้ว

ส่วนข้อซักถามถึงสาเหตุการตายที่ผิดปกติ เราไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ชี้แจงตรงนั้น แต่ทราบว่าได้รับอันตรายอย่างรุนแรงบริเวณต้นคอ ทั้งนี้คงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งอาจเกิดจากของแข็งไปกระทบต้นคอ หรือต้นคอมากระทบของแข็งก็ได้ และเรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตามตามการตรวจทางนิติเวชเราบอกได้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งขณะนี้จำกัดสาเหตุการตายว่าเกิดจาก 2 กรณี ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากคดียังไม่จบ แต่ถ้าคณะกรรมการฯต้องการเอกสารเพิ่มเติมคณะกรรมการฯ ต้องทำหนังสือร้องขอมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการฯ มีข้อสงสัยในสาเหตุการตายของพลทหารอภินพโดยได้จี้ถามสาเหตุการตายจากแพทย์ที่เกี่ยวข้องเป็นรายบุคคล
นอกนั้นนายเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ส.ส. กทม. ประชาธิปัตย์ ได้สอบถามถึงกรณีที่มีผู้ชุมนุมไปปิดล้อมโรงพยาบาลราชวิถีเพื่อทวงศพผู้เสียชีวิต จึงอยากทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร และมีผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่ ซึ่งน.พ.ชาตรี เจริญชีวกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) กล่าวว่า ในฐานะที่ตนอยู่ในเหตุการณ์ขอชี้แจงว่า เกิดจากความเข้าใจผิดกรณีนายไสว ทองอุ้ม ซึ่งถูกยิงที่หน้าอกซ้ายมีเลือดออกมา และมีคนที่นำส่งโรงพยาบาลเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูคิดว่านายไสวเสียชีวิตเนื่องจากหมดสติไป จึงได้ไปขึ้นเวที นปช. และประกาศว่ามีคนตาย แต่แพทย์ได้ปั๊มหัวใจและช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และตนได้พาตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาปิดล้อมเข้าไปพิสูจน์ว่ายังไม่เสียชีวิต ซึ่งเมื่อพบว่านายไสวยังพูดได้ ตัวแทนก็ได้กลับมาบอกกับผู้ชุมนุมและสลายตัวไป ทั้งนี้ในส่วนของเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย ตนยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และยืนยันว่าไม่ได้มีการซ่อนศพไว้แต่อย่างใด

ด้านนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส. กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ถามถึงการที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 ราย แสดงว่านปช.มีอาวุธหรือไม่ และภาพทหารนำเชือกมัดมือผู้ชุมนุมไพร่หลังเกี่ยวข้องศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ นอกจากนี้สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าศพที่พบเสียชีวิตมาแล้วกี่ชั่วโมง ซึ่ง น.พ.นิติกร กล่าวว่า ทั้ง 2 ศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่สามารถบอกได้ว่าตายมากี่ชั่วโมง แต่บอกได้เป็นวันว่าเสียชีวิตมาแล้วกี่วัน เพราะศพที่พบเน่าแล้ว ซึ่งทั้ง 2 ศพตายในเวลาใกล้เคียงกัน ส่วนกระสุนปืนที่เปิดเผยตามสื่อมวลชนตนเห็นว่าเป็นเพียงการเปิดเผยความจริงส่วนเดียวเท่านั้น เพราะการที่บาดแผลจะสามารถระบุถึงอาวุธที่ชัดเจนได้ ต้องเป็นบาดแผลที่สด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook