ยายหลานยันเอาเรื่องถึงที่สุด สั่งหยุดเรียนชั่วคราว เพื่อนชายข่มขืนหลังเลิกเรียน

ปคม.เข้าพบ 2 ยายหลาน กรณีหลานสาววัย 13 ถูกเพื่อนชายข่มขืน ยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พร้อมให้หยุดเรียนชั่วคราว เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อสังคม

(4 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์(ปคม.) เดินทางเข้าพบ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ยายหลาน เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น กรณี ด.ญ.บี ถูกเพื่อนนักเรียนชายล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องเรียนหลังเลิกเรียน โดยใช้เวลาสอบถามพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับโดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด

จากการพูดคุยกับ นางเอ เล่าว่า หลังจากเป็นข่าวออกไปทางสื่อต่างๆ คู่กรณีได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอพูดคุยเจรจาให้ตนถอนแจ้งความไม่เอาเรื่อง พร้อมเสนอวิธีจะให้เด็กชายที่ก่อเหตุมาผูกข้อไม้ข้อมือกันและจะให้หลานสาวตนไปอยู่ที่บ้านเขา

ซึ่งตนไม่ยอมรับมองว่าวิธีดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตนไม่เชื่อว่าเด็กจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้เนื่องจากทั้งคู่ยังเป็นเด็ก ถ้าเกิดผิดพลาดจนมีลูกขึ้นมา เชื่อว่าตนก็จะต้องมานั่งเลี้ยงดูให้อีก แถมหลานสาวจะต้องมาเสียอนาคตในการเรียนอีกด้วย ซึ่งตนยอมรับไม่ได้ในเรื่องนี้และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

>> เด็กหญิงวัย 12 ถูกเพื่อนชายข่มขืนคาห้องเรียน ตัดสินใจบอกยายเพราะกลัวท้อง

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของหลานสาวในขณะนี้หลังจากทางครอบครัวได้พูดคุยให้กำลังใจหลานสาวก็กลับมามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบว่าจะขอให้หลานสาวหยุดเรียนในช่วงนี้ เนื่องจากเกรงว่าถ้าหลานสาวไปโรงเรียนอาจจะถูกเพื่อนเข้ามาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบทำให้หลานสาวเกิดอาการเครียดขึ้นมาอีก ซึ่งทางโรงเรียนก็รับเรื่องและอนุญาตให้หยุดเรียนไปก่อน โดยจะไม่มีผลกระทบกับการสอบปลายภาค

ส่วนเรื่องการดำเนินการในส่วนของโรงเรียนนั้นต้องรอให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนเดินทางกลับมาจากการพานักเรียนไปแข่งกีฬาที่ จ.เชียงใหม่แล้วจะเรียกตนกลับคู่กรณีไปพูดคุยตกลงกันเบื้องต้นทราบว่าทางโรงเรียนได้มีการสั่งพักการเรียนนักเรียนชายที่ก่อเหตุแล้ว

ขณะที่กรณีที่มีข่าวว่าทางผู้ปกครองของนักเรียนชายที่ก่อเหตุได้มีการติดต่อกับทางยายของผู้เสียหายจะนำเงินมามอบให้เพื่อขอจบคดี ซึ่งพนักงานสอบยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นไปไม่ได้เนื่องจากเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้แต่ถ้าจะนำมามอบให้เพื่อการเยียวยาหรือช่วยเหลือปลอบขวัญผู้เสียหายสามารถทำได้แต่จะไม่เกี่ยวกับคดีแต่อย่างไร

ร.ต.อ.ณัฐพล ดวงสุริยา ร้อยเวร สภ.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นได้พาเด็กไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทั้งส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางใหญ่ ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นได้สอบปากคำยายไว้แล้ว ส่วนเด็กได้สอบถามเบื้องต้นต้องรอนัดสหวิชาชีพ ที่สำนักอัยการ จ.นนทบุรี เพื่อสอบปากคำอีกครั้ง

โดยจะทำการสอบสวนในวันที่ 13 ธันวาคม 2561 เวลา 13.00 น. หลังจากนั้นจะออกหมายเรียกคู่กรณี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อขอเข้าพบ เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายเรียกได้เลยโดยไม่ต้องรอผลตรวจของแพทย์ ซึ่งคู่กรณีนั้นเป็นเยาวชนเช่นกันหลังเข้าพบร้อยเวรก็ต้องส่งให้สหวิชาชีพสอบปากคำเช่นกัน