ลือหึ่ง! ปมไล่ยิงกลางเมืองแปดริ้ว แฟนใหม่-เก่าของแม่ แย่งนั่งเก้าอี้พ่อให้ลูกกราบ
มือปืนกวดไล่ยิงพ่อ หลังรับไหว้จากลูกในการจัดงานวันพ่อที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังกลางใจเมืองแปดริ้ว ให้ญาติติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว ชาวบ้านเผยพบปมเดือด แฟนใหม่-เก่า ของแม่แย่งนั่งเก้าอี้พ่อให้ลูกกราบในงานโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.ท.สุพรรณ พลภักดิ์ รองผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ร.ต.ท.หญิง แพรวพรรณ บุญค้ำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เดินทางเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมจาก นายอมตะ หรือ ตั้ม อายุ 38 ปี
หลังจากเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) นายอมตะ ถูก นายศรัญญู อายุ 27 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมาใช้อาวุธปืนไล่ยิงบนถนนพานิช กลางตลาดภายในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ขณะกำลังเดินทางกลับจากการไปร่วมในงานวันพ่อของบุตรสาว ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาลในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่าน ถ.ศุภกิจ (เซนต์หลุยส์)
>> เปิดฉากแอคชั่น! ซิ่งไล่ยิงพ่อกลางเมือง หลังเพิ่งไปงานวันพ่อโรงเรียนลูก
โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ชนวนเหตุในการไล่ยิงกันกลางใจเมืองในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับกรณีที่อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุได้พยายามที่จะให้นายตั้ม ไปนั่งเก้าอี้ของผู้เป็นพ่อเพื่อให้ลูกกราบแทนผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพ่อตัวจริง ตามที่ชาวบ้านต่างพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ในพื้นที่หรือไม่
พ.ต.ท.สุพรรณ กล่าวตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเพราะยังสอบไปไม่ถึงประเด็นในเรื่องนี้ ก่อนที่จะรีบเดินทางไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมยังภายในห้องพักรักษาตัว ภายใน รพ.พุทธโสธร ต่อไป
ในส่วนของความคืบหน้าของคดี พ.ต.ท.สุพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมที่จะขอหมายจับกุมตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนการที่ผู้ต้องหาได้มีการให้ญาติติดต่อมาทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อที่จะขอเข้ามอบตัวนั้น ก็เป็นเรื่องของเขา ในส่วนของทางพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งหากศาลอนุมัติออกหมายจับให้ในวันนี้ ก็จะดำเนินการเข้าทำการจับกุมตัวมาทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป สำหรับประเด็นที่เป็นชนวนในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้นั้นมาจากเรื่องของการเข้าใจผิดของผู้ก่อเหตุ ที่เข้าใจว่าอดีตภรรยาไปคบหายุ่งเกี่ยวกับนายตั้ม จึงได้พยายามที่จะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ทำการสอบสวนพยานไป 3 ปากแล้ว และจะมาสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมในวันนี้
ส่วนรถยนต์ของชาวบ้านที่นายตั้ม ขับเฉี่ยวชนเพื่อหลบหนีในขณะเกิดเหตุจำนวน 3 คันนั้น ส่วนใหญ่เจ้าของไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะเห็นว่าเป็นเหตุการณ์เร่งด่วนฉุกเฉิน ที่ผู้ก่อเหตุนั้นกำลังพยายามหนีตาย โดยมีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์เพียง 1 รายเท่านั้น ที่ยังติดใจที่จะดำเนินคดีต่อนายตั้ม กรณีขับรถพุ่งเฉี่ยวชนจนรถยนต์ได้รับความเสียหาย พ.ต.ท.สุพรรณ กล่าว