โจรแสบตระเวนลักทรัพย์ชาวบ้านคืนเดียว 2 หลังซ้อน ตำรวจคาดคนใกล้บ้าน-เร่งล่าตัว

(5 ธันวาคม 2561) เมื่อช่วงสาย พ.ต.ท.ไพโรจน์ ลิลากุด สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านพักของชาวบ้านจำนวน 2 หลัง โดยเหตุเกิดที่บ้านดอนหัวหมู ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร โดยหลังแรกเป็นบ้านของ นางอัมพร อายุ 63 ปี ซึ่งยืนหน้าเศร้ารอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พร้อมกับพาไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณที่นอนภายในบ้านพัก ซึ่งผู้เสียหายได้นำกระเป๋าที่ใส่เงินวางเอาไว้ ก่อนที่จะถูกคนร้ายลักเอาสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 สลึง และเงินสดจำนวนกว่า 700 บาท หลบหนีไป

นางอัมพร ผู้เสียหาย เล่าว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเวลาประมาณ 3 นาฬิกา ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ตนได้ยินเสียงสุนัขเห่าเสียงดังมาจากทางคอกวัวทางด้านหลังบ้าน

ตนจึงตื่นขึ้นและเดินไปเปิดประตูทางด้านหลังบ้านเพื่อเดินออกไปตรวจดูที่บริเวณคอกวัวและได้วางกระเป๋าที่ใส่เงินสดประมาณกว่า 700 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 สลึง วางทิ้งเอาไว้ที่บริเวณที่นอน

พอตนเดินไปตรวจดูคอกวัวไปรอบสักพักหนึ่งก็ไม่พบอะไรผิดปกติ จากนั้นจึงกลับเข้ามาในบ้านและไปเปิดดูทรัพย์สินภายในกระเป๋าจึงพบว่าทรัพย์สินที่เก็บเอาไว้หายไปทั้งหมด จึงเข้าใจว่าคนร้ายคงจะอาศัยช่วงจังหวะที่ตนเดินออกจากบ้านไปแล้วแอบย่องเข้าไปลักเอาทรัพย์สินดังกล่าวหลบหนีไป

จากนั้นเข้าตรวจสอบที่บ้านของ น.ส.ภวันนา อายุ 43 ปี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังแรกประมาณ 200 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยน.ส.ภวันนาฯ กล่าวว่าช่วงประมาณ 03.30 น. ตนได้นอนอยู่ให้ห้องรู้สึกเหมือนมีคนกำลังนั่งมองอยู่ลักษณะเป็นผู้ชาย สวมหมวกไอ้โม่ง เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสามส่วน

ตนจึงตัดสินใจร้องตะโกนถามว่าผีหรือคน จนคนร้ายตกใจวิ่งหนีออกทางหลังบ้าน จากนั้นก็ได้ลุกขึ้นเปิดไฟพร้อมทั้งปลุกคนในบ้านให้ออกมาดู โดยจากการสำรวจยังไม่มีทรัพย์สินใดๆ หายไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะได้ทำการสืบสวนพร้อมเร่งสืบหาตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเหตุลักทรัพย์ในครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายรายเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากบ้านหลักแรกยังสร้างไม่เสร็จสมบรูณ์สามารถเข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องงัด

ส่วนบ้านหลังที่ 2 ประตูหลังบ้านล็อกไม่ได้ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกใกล้เคียงที่รู้จักทางเข้าออกได้เป็นอย่างดี และเวลาลงมือก่อเหตุก็ใกล้เคียงกันซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป