กรมอุตุฯ สยบข่าวลือ ชี้ชัดเมืองไทยไม่ได้หนาวลงแบบฮวบฮาบ

กรมอุตุฯ สยบข่าวลือ ชี้ชัดเมืองไทยไม่ได้หนาวลงแบบฮวบฮาบ

กรมอุตุฯ สยบข่าวลือ ชี้ชัดเมืองไทยไม่ได้หนาวลงแบบฮวบฮาบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมอุตุนิยมวิทยาออกโรงชี้แจง หลังข่าวลือเรื่องสภาพอากาศหนาวลงฮวบฮาบ ให้ความหวังคนไทยที่รอสัมผัสอากาศหนาว ยืนยันอุณหภูมิจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลอด 4-5 วันหลังจากนี้

(8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวต่างๆ มากมายในโลกโซเชียลมีเดียที่มีการนำเสนอทำนองว่า ในช่วงวันที่ 7-13 ธันวาคม 2561 นี้ ลักษณะสภาพอากาศในประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลง แบบอุณหภูมิลดฮวบฮาบ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสอากาศหนาวของฤดูหนาว หลังจากที่ทนร้อนอบอ้าวต่อเนื่องหลายสัปดาห์

ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการนำเสนอข่าวที่เกินจริง และไม่มีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากลักษณะอากาศโดยทั่วไปในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนั้น อุณหภูมิจะหนาวเย็นลงโดยเฉพาะตอนบนของประเทศ ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประมาณ 1-3 องศาเซลเซียส

"กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงว่า ในระยะที่ผ่านมาบริเวณ ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น อากาศมีความชื้นและมีหมอกหนาบางพื้นที่ แต่ในช่วงวันที่ 7-10 ธันวาคม 2561 มีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ลักษณะดังกล่าวจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส จากนั้นอุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลง อยู่ในลักษณะอากาศเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิไม่ได้ลดลงอย่างฮวบฮาบและรวดเร็วอย่างที่เป็นข่าวลือ

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลและติดตามสภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง หากในกรณีที่คาดว่าจะมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรมอุตุนิยมวิทยาจะมีการประกาศและแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ซึ่งจะมีรายละเอียด วันและเวลาที่เกิดขึ้นแน่นอน ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข้อความที่มาจากแหล่งที่ไม่มีข้อมูลอ้างอิงและขาดความน่าเชื่อถือ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook