"รักไหม?" เป็นคำถามสุดท้าย หนุ่มระแวงเมียนอกใจ ย่องลาตายตอนหลับ

"รักไหม?" เป็นคำถามสุดท้าย หนุ่มระแวงเมียนอกใจ ย่องลาตายตอนหลับ

"รักไหม?" เป็นคำถามสุดท้าย หนุ่มระแวงเมียนอกใจ ย่องลาตายตอนหลับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มตัดสินใจลาตาย ถามเมียครั้งสุดท้าย "รักแล้วห่วงไหม?" ก่อนย่องไปผูกคอระหว่างกำลังนอนหลับ คาดสาเหตุเพระน้อยใจและระแวงเมียมีชายอื่น

(8 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมคิด อ่อนจันทร์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิตอยู่ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยเกาะแก้ว 23 ต.เกาะเเก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับเเจ้งจึงพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องครัวด้านหลังบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายดำรง อายุ 27 ปี เป็นชาว อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ถูกนำร่างมาวางเอาไว้ที่พื้น สภาพศพสวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ บริเวณลำคอมีช้ำจากการถูกรัด ส่วนที่ผนังพบเขือกไนล่อนสีขาว ผูกปมร้อยติดกับช่องระบายอากาศ เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม

จากการสอบถาม น.ส.กัตติกา อายุ 22 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายดำรง ทำงานเป็นช่างถ่ายภาพกรุ๊ปทัวร์ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งที่เกาะราชา พวกตนได้แต่งงานอยู่กินกันมา และมีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนเกิดเหตุไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งอะไร และเข้านอนตามปกติ

กระทั่งเมื่อเวลา 03.00 น. นายดำรงได้ตื่นมาถามตนว่า "รักและเป็นห่วงไหม" ตนเองก็ตอบไปว่ารักและเป็นห่วง ก่อนจะหลับต่อ กระทั่งเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่เห็นนายดำรงอยู่ในห้อง จึงเดินไปหลังบ้านพบว่าสามีเสียชีวิตด้วยการผูกคอ จึงรีบไปตามคนมาช่วย และใช้กรรไกรตัดเชือก นำร่างนายดำรงลงมา แต่ก็ช่วยชีวิตเอาไม่ทันแล้ว

ขณะที่เพื่อนชายของนายดำรง เปิดเผยว่า นายดำรงเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่ก่อนจะเสียชีวิต ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนพามาส่งที่บ้านก็ยังเป็นปกติ ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ยังโบกมือทักทายและขอบใจเพื่อน

ส่วนเพื่อนสนิทอีกคนระบุว่า สาเหตุอาจเกิดจากความหวาดระแวง นายดำรงกลัวว่าภรรยาจะนอกใจ เพราะเคยบ่นระบายในทำนองว่าจะไปแอบดูภรรยาที่ทำงาน ซึ่งตนคิดว่าอาจเป็นเพราะผู้เสียชีวิตรู้สึกหึงหวง กลายเป็นความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook