รถดับเพลิงเสียพอดี! ไฟไหม้กุฏิวอดทั้งหลัง เงินบริจาคหล่อพระกลายเป็นเถ้าถ่าน

รถดับเพลิงเสียพอดี! ไฟไหม้กุฏิวอดทั้งหลัง เงินบริจาคหล่อพระกลายเป็นเถ้าถ่าน

รถดับเพลิงเสียพอดี! ไฟไหม้กุฏิวอดทั้งหลัง เงินบริจาคหล่อพระกลายเป็นเถ้าถ่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(9 ธ.ค.) เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระภายในวัดโป่งทองชัยพัฒนาราม บ้านโป่งเปือย หมู่ที่ 2 ต.โป่งเปือย อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ในขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงบนชั้นสองของกุฏิที่เป็นครึ่งปูนครึ่งไม้ ท่ามกลางชาวบ้านในหมู่บ้านที่รู้ข่าว ต่างพากันนำน้ำมาช่วยดับไฟกันจ้าละหวั่น พร้อมกับต้องคำถามว่าเมื่อไรรถดับเพลิงจะมา ทั้งที่จุดเกิดเหตุ ห่างจาก อบต.โป่งเปือย เพียง 1.3 กิโลเมตรเท่านั้น ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดต้องช่วยกันหิ้วถังน้ำสาดเข้าสกัดไฟหวั่นลุกลามไปกุฏิข้างเคียง พร้อมกับช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกมาจากชั้นล่างอย่างโกลาหล จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 20 นาที ไฟที่ไหม้ชั้นสองของกุฏิเริ่มสงบลง ซึ่งมีรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลโนนสว่าง และ อบต.นาสวรรค์ ที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยกันดับไฟเอาไว้ได้ ท่ามกลางเสียงบ่นของชาวบ้านว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุไฟไหม้บ้านชาวบ้าน แต่รถดับเพลิงก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุช้าจนไฟไหม้บ้านไปหมดทั้งหลัง

พระฉลอง สมจิตโต เจ้าของกุฏิไฟไหม้ กล่าวว่าขณะเกิดเหตุได้เข้าไปในตัวเมืองบึงกาฬ เพื่อซื้อสิ่งของมาไว้ใช้ในพิธีหล่อพระที่จะจัดขึ้นในช่วงวันปีใหม่ระหว่าง 30-31 ธ.ค.นี้ ก่อนออกจากกุฏิก็ตรวจตาดูแล้วว่าไม่ได้จุดธูปเทียนอะไรไว้ ซึ่งจากการบอกเล่าของพระลูกวัดว่าก่อนไฟไหม้ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด 2 ครั้งดังมาจากชั้นสองของกุฏิจากนั้นก็มีกลุ่มควันลอดออกมาพร้อมกับเปลวไฟ ซึ่งข้างบนได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งปัจจัยหลายหมื่นบาท ที่ชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเอาไว้ใช้ในพิธีหล่อพระถูกไฟไหม้เสียหายหมด มูลค่ารวมประมาณแสนกว่าบาท

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง อบต.โป่งเปือย และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่ารถดับเพลิงของ อบต.โป่งเปือย ค่อนข้างเก่าและเกิดชำรุดเสียหายมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดปั๊มฉีดน้ำที่ติดกับตัวรถแตกเสียหายไม่สามารถฉีดน้ำได้จึงนำรถเข้าไปซ่อม แต่หลังทราบข่าวว่ามีไฟไหม้ก็ได้ประสาน เทศบาลและอบต.ที่อยู่ใกล้ให้ช่วยมาดับไฟอย่างเร็วที่สุด โชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหลังนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หอคำ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ จะเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุข้อเท็จจริงการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook