หนุ่มใหญ่มีเมีย 5 เพิ่งรู้ติดเชื้อ HIV เกิดน้อยใจ รพ. ผูกคอตายประชด

หนุ่มใหญ่มีเมีย 5 เพิ่งรู้ติดเชื้อ HIV เกิดน้อยใจ รพ. ผูกคอตายประชด

หนุ่มใหญ่มีเมีย 5 เพิ่งรู้ติดเชื้อ HIV เกิดน้อยใจ รพ. ผูกคอตายประชด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“กูไม่เอาแล้วยา กูจะกลับไปตายที่บ้าน”คนขับรถรับจ้างวัย 51 ปี มีเมีย 5 คน เพิ่งรู้ติดเชื้อเอชไอวีนาน 2 เดือน ไปพบหาหมอตั้งแต่ตี 4 แต่ไม่ได้รับยามารักษา บ่นน้อยใจรพ. กลับบ้านมาผูกคอประชดเสียชีวิตในห้องนอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 4 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา และญาติผู้เสียชีวิตยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าบ้าน

จากการตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตผูกคอตายอยู่ภายในห้องนอน ทราบชื่อคือ นายจงรัก อายุ 51 ปี อาชีพขับรถยนต์รับจ้าง เสียชีวิตอยู่ในท่านั่ง มีเชือกสายไฟผูกคอโดยผูกกับหน้าต่างเหล็กดัด โดยมีนายพร อายุ 61 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิตยืนให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยลูกสาวและญาติ

นายพร พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพขับรถรับจ้าง มีเมีย 5 คน มีลูกสาว 2 คน เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ แต่กลับตรวจพบเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ทำให้ผู้เสียชีวิตตรอมใจกินข้าวไม่ได้ จนร่างกายซูบผอม ก่อนตายหลานๆ ผู้เสียชีวิตได้พาไปพบหมอที่รพ.แห่งหนึ่งตามนัด พอกลับมาก็มาผูกคอเสียชีวิตอยู่ภายในห้องแล้ว

ด้าน นางสาวดลพร ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองได้พาผู้เสียชีวิตไปรพ.ตามที่หมอนัดไว้ตั้งแต่ตีสี่ มีเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไม่สบายให้ไปหาหมอหน้าตึก ซึ่งวันนี้หมอเป็นคนนัดให้มาเอายา แต่ไม่ได้ยากลับไป พ่อบ่นว่าไปหาหมอก็ต้องเจาะเลือดเหมือนเดิม แบบนี้กลับไปรอความตายที่บ้านดีกว่า

พ่อน้อยใจที่ไปหาหมอมาหลายหนแล้วแต่ก็ไม่ได้ยากลับมาทาน พอไม่สบายก็ไปหาหมอหมอก็ให้น้ำเกลือเสร็จก็กลับมาบ้าน ครั้งนี้ก็เช่นกันทั้งที่หมอนัดไปเอายา แต่ไม่ได้ยากลับมาบ้าน พ่อเลยเกิดการน้อยใจและบ่นว่า “กูไม่เอาแล้วยา กูจะกลับไปตายที่บ้าน” เพราะเค้าไปหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้ยามากิน ได้แต่ยาพาราฯมากิน ก่อนจะผูกคอตนเองเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง แต่ทางญาติแจ้งว่าไม่ติดใจเอาความ และไม่มีเงินที่จะเสียค่าใช้จ่ายในการรับศพที่โรงพยาบาลอีกด้วย จึงขอนำร่างไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook