ขาดรายได้! ช่างซ่อมเครื่องกรองน้ำแสบหลอกเอาเครื่องไปซ่อมแล้วเชิดหนี
นายรพีพงค์ เพิ่มมณีรัตนา ประธานกองทุนหมู่บ้านหมู่ที่ 4 ต.จรเข้สามพัน นายทวน ทองคำ ประธานกองทุนหมู่บ้านหมู่ที่ 11 ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กิติพันธ์ โป่งคำ รอง สารวัตรสอบสวน สภ.อู่ทอง เพื่อให้สืบสวนติดตามตัวนายธนภูมิ ช่างซ่อมเครื่องกรองน้ำมาดำเนินคดี
โดยประธานกองทุนทั้ง 2 หมู่บ้านกล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายธนภูมิ ได้มาติดต่อกับนายรพีพงค์ ว่าจะมาเช็กเครื่องผลิตน้ำแก้วซึ่งเป็นของกองทุนหมู่บ้านให้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตนจึงให้นายธนภูมิ นำเครื่องกรองน้ำไปตรวจเช็กเนื่องจากนายธนภูมิ เคยมาติดตั้งระบบเครื่องทำน้ำดื่มของกองทุนหมู่บ้านที่ตนเป็นประธานและยังเคยซ่อมแซมระบบเครื่องกรองน้ำตนจึงเชื่อใจให้ยกเครื่องผลิตน้ำถ้วยไป
โดยที่นายธนภูมิบอกว่าใช้เวลาในการตรวจเช็กประมาณ 4 วันแล้วจะนำกลับมาส่งคืน ตนจึงให้ไปดูเช็กเครื่องผลิตน้ำแก้วของกองทุนหมู่บ้านหมู่ที่ 11 ต.จรเข้สามพัน ที่มีนายทวน ทองคำ เป็นประธาน ซึ่งเครื่องเสียอยู่เหมือนกัน นายธนภูมิ ได้เดินทางมาดูแล้วบอกว่าต้องยกกลับไปเช็กที่ร้านเสร็จแล้วจะนำกลับมาส่งพร้อมกัน
นายรพีพงค์ ประธานกองทุนหมู่บ้านหมู่ที่ 4 กล่าวอีกว่าเมื่อครบกำหนดเวลาตามที่นายธนภูมิ รับปากไว้ว่าจะเช็กและซ่อมเสร็จกลับไม่นำเครื่องผลิตน้ำแก้วมาส่ง ตน จึงได้โทรไปสอบถามว่าจะว่าส่งวันไหน นายธนภูมิก็ได้ว่าจะรีบนำเครื่องผลิตน้ำมาส่งแต่แล้วก็เงียบหาย ตนพยายามโทรศัพท์ติดตามทวงถามหลายครั้งสุดท้ายไม่ยอมรับสายของตน
กระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ 3 เดือนตนเห็นว่าผิดปกติจึงได้ชวนนายทวน มาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากเครื่องผลิตน้ำแก้ว ที่นายธนภูมิ นำไปซ่อมนั้นเป็นทรัพย์สินของส่วนรวมได้มาจากงบประชารัฐ ซึ่งมีมูลค่าเครื่องละ 200,000 บาท 2 เครื่อง รวมเป็นเงินถึง 400,000 บาท การที่นายธนภูมินำเครื่องผลิตน้ำไปซ่อมแล้วเงียบหายแบบนี้ทำให้ทางกองทุนหมู่บ้านขาดรายได้ เนื่องจากไม่ได้ผลิตน้ำแก้วมานาน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวนายธนภูมิมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย