"ไอ้ต้อม" ตบคนแก่-คนพิการ 4 คนรวด สารภาพฝังใจ คิดบัญชีแค้นเรียงตัว
รวบแล้วหนุ่มเมายาคลั่งไล่ทำร้ายคนแก่-คนพิการ ทำผวาไปทั้งหมู่บ้าน อ้างแค้นฝังใจถูกดูถูกพ่อแม่ แถมลอบมีสัมพันธ์กับอดีตภรรยา บ่มแค้นมานานก่อนกินเหล้าย้อมใจไล่ก่อเหตุเรียงตัว
(14 ธ.ค.) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เข้าควบคุมตัว นายนพรัตน์ หรือ ต้อม อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย มาสอบสวนดำเนินคดี หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุและคนพิการ 4 คนในหมู่บ้านเดียวกัน ทำให้ได้รับบาดเจ็บ
ประกอบด้วย นายสว่าง อายุ 59 ปี, นายบุญมา อายุ 64 ปี, นายดวงคำ อายุ 67 ปี และ นายศรี อายุ 76 ปี ผู้พิการขาผิดรูป ทั้งหมดเป็นชาวบ้านบ้านป่าไม้แดง หมู่ 2 ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายจับ ก่อนที่ชุดสืบสวนจะติดตามจับกุมนายนพรัตน์ได้ที่บ้านพักของแฟนสาวในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังผู้ต้องหาหลบหนีไปซ่อนตัวในพื้นที่ต่างๆ นานกว่าครึ่งเดือน
>> ปิดประตูบ้านผวา "ไอ้ต้อม" จิตหลอน ทำร้ายคนแก่-ตบคนพิการ วันเดียวสาหัส 4 ราย
หลังถูกจับเจ้าหน้าที่นำตัว นายนพรัตน์ เข้ากราบขอขมา ผู้เสียหายทั้ง 4 คน ซึ่งบางรายเป็นเครือญาติกันด้วย ขณะที่นายนพรัตน์ อ้างว่า เหตุที่ลงมือทำร้ายผู้เสียหายทั้งหมด เพราะแค้นที่ทั้ง 4 เคยดูถูกพ่อแม่ของตนเองว่ายากจน และ บางคนยังเคยลักลอบมีสัมพันธ์กับภรรยาของตนด้วย โดยวันก่อเหตุยอมรับว่าได้เสพยาก่อนดื่มสุราจนเมาหนัก
นายสว่าง อายุ 59 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกนายนพรัตน์ทำร้าย ด้วยการล๊อกคอใช้มีดแทงที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึง 5 เข็ม กล่าวว่า ตนเป็นญาติกับนายนพรัตย์และอยู่บ้านติดกันกับนายนพรัตน์ ที่ผ่านมาให้การช่วยเหลือทั้งนายนพรัตน์และครอบครัวมาโดยตลอด ไม่คิดว่าจะถูกนายนพรัตน์ทำร้ายปางตายเช่นนี้ แต่ก็พร้อมจะให้อภัยและอยากให้นายนพรัตน์กลับตัวเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ขณะเดียวกันก็บอกว่า ดีใจที่ตำรวจจับตัวนายนพรัตน์ได้ เพราะก่อนหน้านี้ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา ไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวว่านายนพรัตน์จะย้อนกลับมาก่อเหตุทำร้ายชาวบ้านอีก
พ.ต.อ.พงษ์พีระ การะเกตุ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาทราบว่าไม่ได้มีมูลเหตุจูงใจ แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาติดยาเสพติดและเคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว 1 ครั้ง เบื้องต้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจว่ามีปัญหาด้านสุขภาพจิตหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต
หากไม่พบปัญหาเรื่องสุขภาพจิต ก็จะพิจารณาดูเจตนาและลักษณะการทำร้ายว่ามุ่งหวังเอาชีวิตหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้เสียหายบางรายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องหาน่าจะเสพยาจนเกิดอาการจิตหลอน หวาดระแวงว่าจะมีคนมาเป็นชู้กับภรรยาของตนเอง