ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! รวมมิตรข่าว 2018 ที่แปลกแต่มีอยู่จริง จนต้องร้อง "แบบนี้ก็ได้เหรอ"
จะว่าไปแล้ว แม้ว่าโลกยุคนี้จะเป็นยุคที่เรียกได้ว่าใช้เทคโนโลยีนำหน้า เป็นยุคอินเทอร์เน็ต ยุคไอที แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีเรื่องราวแปลกๆ แหวกแนว ชนิดที่ต้องอุทานออกมาว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ และต่อไปนี้คือ รวมมิตรข่าวแปลกแหวกแนว แบบนี้ก็ได้เหรอ แห่งปี 2018 ที่ Sanook! News นำมาฝากกัน
เจ้าอาวาสโต้ขืนใจสาว ไม่รู้อสุจิไปอยู่ในช่องคลอดได้ยังไง
จริงๆ เรื่องนี้จะว่าไปก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนะ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดว่าถูกเจ้าอาวาสล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากนั้นกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงจึงเกิดขึ้น มีการให้ทั้งสองฝ่ายเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
เรื่องราวดำเนินไปจนกระทั่งมีการตรวจดีเอ็นเอคราบอสุจิ ซึ่งบังเอิญว่าดันไปตรงกับของเจ้าอาวาสพอดิบพอดี แต่เรื่องมาพีคตรงที่ว่าปกติถ้าพยานหลักฐานชัดแจ้งแดงแจ๋ขนาดนี้หลายๆ คนคงน่าจะยอมรับสารภาพไปแล้ว
หากแต่ท่านเจ้าอาวาสกลับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ไม่ทราบว่าอสุจิที่ดีเอ็นเอตรงกับของตนเองไปอยู่ในช่องคลอดของหญิงสาวคนดังกล่าวได้อย่างไร เล่นเอามึนกันไปทั้งบาง
ล่าสุดเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ศาลพิพากษาจำคุกเจ้าอาวาสรายนี้ 8 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพในชั้นพิจารณาคดี ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี ปิดคดีความมึนอสุจิตัวเองไป
สาวตามใจผัวมีเมีย 4 คน ลั่นรักด้วยใจไม่เกี่ยวกับเงิน
เรื่องนี้จะว่าแปลกก็แปลก แต่บางคนที่เป็นผู้ชายสายเจ้าชู้บอกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา! ก็จะอะไรซะอีกล่ะเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าตนเองอนุญาตให้สามีสามารถมีภรรยาพร้อมกันทีเดียว 4 คน แถมยังอยู่ร่วมกันแบบสมัครสมานสามัคคีกลมเกลียว ไร้ซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีเรื่องของเงินทองเข้ามาเกี่ยว ทุกอย่างเป็นเรื่องใจล้วนๆ
สาวใจกว้างรายนี้ยังบอกอีกว่า ภรรยาทุกคนของสามี ตนเองในฐานะที่มาก่อนเป็นผู้คัดเลือกผู้มาทีหลังให้อีกต่างหาก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือต้องผ่านมาตรฐานของเจ้าตัวก่อน
เมื่อข่าวนี้กระจายสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง แน่นอนว่าเจอเสียงก่นด่าไปไม่น้อย แต่ก็มีหลายคนที่รำพึงรำพันกับสายลมเพื่อหวังจะให้เข้าหูคนที่อยู่ข้างๆ ว่า จะใจกว้างเป็นแม่น้ำแบบนี้บ้างได้มั้ย แต่แปลกไม่ยักได้ยินเสียงคำตอบใดๆ กลับมา
ดีเจฆ่าแมว ทำโยเกิร์ตจาก "ช่องคลอด" เผยหอมเหมือนของจริง ไร้กลิ่นคาว
จะเล่าเรื่องนี้ก็คิดแล้วคิดอีกเหมือนกัน เอาเป็นว่าเล่าแบบย่อๆ แล้วกัน คือ ก่อนหน้านี้มีคดีดังในโลกโซเชียลที่สะเทือนใจกลุ่มคนรักแมวคือ มีหญิงสาวคนหนึ่งมีอาชีพเป็นดีเจเปิดแผ่นเสียงตามงานต่างๆ รับเอาแมวไปเลี้ยงจากกลุ่มคนที่ประกาศหาเจ้าของให้กับแมวผู้น่าสงสาร
แต่ที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาก็เพราะดีเจสาวดันถูกกล่าวหาว่าเอาแมวไปทรมานแล้วฆ่าจนตาย! ทีนี้ก็เลยมีนักสืบโซเชียลไปสืบเสาะว่าหญิงสาวรายนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร กลับไปพบเจอข้อมูลหนึ่งซึ่งแปลกแต่จริง
นั่นคือ ดีเจสาวผู้นี้เคยโพสต์เว็บบอร์ดทำโยเกิร์ตจากเชื้อจุลินทรีย์ในช่องคลอดตัวเอง และเมื่อนำมาชิมพบว่าหอมเหมือนโยเกิร์ตจริงๆ และไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ไม่กล้าเสี่ยงให้คนอื่นชิม ร้อนถึงสูตินรีแพทย์ต้องออกมาเตือนว่าไม่ควรทำ เพราะอวัยวะเพศมีเชื้ออื่นๆ หากรับประทานแล้วอาจได้รับอันตราย
บริษัทโปแลนด์ขายเบียร์สุดแปลก กลั่นจาก "จิ๊มิ" นางแบบชุดชั้นในสุดซี้ด
ช่องคลอดยังมีความสามารถมากกว่านั้น เพราะนอกจากโยเกิร์ตแล้ว บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโปแลนด์ยังคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยการทำเบียร์ที่กลั่นจากกรดแลคติกในอวัยวะเพศของนางแบบชุดชั้นใน แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีกลิ่นหรือไม่ปลอดภัย เพราะนายโวยเทค มันน์ ผู้ก่อตั้งบริษัท อ้างว่าบริษัทมีการตรวจสอบสุขภาพของนางแบบแล้ว และกระบวนการผลิตเบียร์ก็มีการฆ่าเชื้อที่ไม่พึงประสงค์ออกไปด้วย
แควก! สาวแอ่นตัวเล่นเกมลอดเชือก ชุดฟิตจนเป้าขาด โชว์ "นาผืนน้อย" หรา
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เรียกได้ว่า "แบบนี้ก็ได้เหรอ" คือ คลิปที่สาวคนหนึ่งกำลังเล่นเกมแอ่นตัวลอดเชือก แต่ชุดว่ายน้ำของเธอยืดหยุ่นไม่พอ ทำให้ขณะแอ่นยืดตัวอยู่นั้น เป้าขาดขึ้นมา จนนาผืนน้อยของเธอโชว์ให้เห็นต่อหน้าเพื่อนๆ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือโชว์ต่อหน้ากล้องด้วยนี่สิ งานนี้ดังไปทั่วโลก เพราะเมื่อนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ก็มีคนดูเฉพาะในเฟซบุ๊กกว่า 3 ล้านครั้งในเวลาไม่ถึง 2 วัน
หนุ่มมะกันลองดี เจอดุ้น 10 นิ้วทะลวงคอ จนหลอดลมฉีก ลั่น "เจ็บแต่คุ้ม"
อีกข่าวหนึ่งที่เรียกว่าพีคมากๆ ที่ตอนแรกอ่านแล้วยังคิดว่าเป็นข่าวปลอมเสียด้วยซ้ำ คือ ชายคนหนึ่งต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะใช้ปากระบายความไคร่ให้กับชายอีกคน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเพราะขนาดหรือความรุนแรงกี่ริกเตอร์ จนทำให้หลอดลมของชายคนนี้ฉีก แต่ดูเหมือนความเจ็บปวดนี้จะมาพร้อมกับความสุข เพราะชายดังกล่าวถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ไม่ใช่แค่นั้น หนุ่มคนนี้ยังบอกว่า ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปทำอีก เพราะถึงแม้ว่าจะต้องเจ็บตัว แต่ก็คุ้มทีเดียว
"แบบนี้ก็ได้เหรอ"