ชาวบ้านร้องสื่อ "สะพานใหญ่" กลางหมู่บ้านขาดไร้หน่วยงานซ่อม-เกิดอุบัติเหตุมาแล้ว

วันที่ 15 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 12 บ้านย่านซื่อ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากคอสะพานข้ามคลองโปร่งแดง ถนนสายโปร่งแดง-น้ำโจร ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมหมู่บ้านชำรุด

สาเหตุจากน้ำป่าไหลบ่ากัดเซาะดินคอสะพานหลุดหายไป ผิวยางมะตอยบางส่วนหลุดหาย จนเกิดเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถขับผ่านไปได้ ต้องขับรถอ้อมระยะทางไกลนับสิบกิโลเมตร

เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อมูลไปยังหลายหน่วยงานแล้ว แต่เวลาผ่านไปเดือนกว่ายังไม่ได้รับการซ่อมแซม ล่าสุดชาวบ้านหลายคนได้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่วางพาดไปตามถนน เพื่อเชื่อมคอสะพานและถนนที่ยังแข็งแรง เพื่อให้รถยนต์ขนาดเล็กสามารถผ่านได้ไปเป็นการชั่วคราว

แต่ชาวบ้านยอมรับว่าสะพานชั่วคราวไม่มีความมั่นคงและยังเสี่ยงอันตราย อีกทั้งไม่สามารถอนุญาตให้รถยนต์ตั้งแต่หกล้อขึ้นไปขับผ่านได้ เพราะน้ำหนักมากเกิดไปเสี่ยงต่ออันตราย ยังคงต้องขับรถอ้อมไปใช้ถนนใกล้เคียงซึ่งมีระยะทางไกลกว่า 10 กิโลเมตรเช่นเดิม

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบว่า สะพานข้ามคลองโปร่งแดงซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมหมู่บ้านย่านชื่อ เชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านอื่นและเป็นถนนสายหลักสำคัญของชาวบ้าน บริเวณคอสะพานถูกน้ำเซาะ เหตุเกิดจากน้ำป่าไหลหลากเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ส่วนดินที่บดอัดบริเวณคอสะพานหลุดหายไปกับกระแสน้ำจนเป็นช่วงโหว่ขนาดใหญ่ และพื้นถนนบางส่วนชำรุดเสียหาย ซึ่งตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมารถยนต์ไม่สามารถผ่านไปได้

กระทบต่อการเดินทางของคนในหมู่บ้าน รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์จากวัดน้ำโจร ที่ต้องออกบิณฑบาตช่วงเช้า เด็กนักเรียนที่ต้องไปเรียน หรือชาวบ้านที่ต้องเดินทางไปทำไร่ทำสวน ต่างเสี่ยงอันตรายกับการเดินข้ามสะพานด้วยกันทั้งสิ้น

นายอนันต์ พุ่มพวง อายุ 43 ปี ชาวไร่ กล่าวว่า ตนต้องเดินทางไปทำไร่จำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ทุกวัน ล่าสุดขณะขี่รถจักรยานยนต์ได้เสียหลักรถตกหลุมที่พังเสียหายบริเวณคอสะพาน ล้อตกไปข้างใน

เคราะห์ดีที่ตนเองไม่พลัดตกสะพานไปด้วย และได้ชาวบ้านช่วยดึงขึ้นมาได้สำเร็จ มีบาดแผลเล็กน้อย ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก อยากให้หน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหา

ทางด้านนายปราณี ทับถม อายุ 56 ปี อาชีพขับรถรับส่งนักเรียน กล่าวว่า ตนเองขับรถรับส่งนักเรียน ช่วงแรกไม่สามารถขับรถผ่านได้ ต้องขับมาจอดใกล้ๆ แล้วให้เด็กนักเรียนทยอยเดินข้ามสะพานที่ชำรุดทีละคน เพราะหวั่นสะพานพังลงไปในคลองจะทำให้เกิดอันตรายกับนักเรียนได้

หรืออีกทางคือจะต้องขับอ้อมระยะทางไกลกว่า 15 กิโลเมตร ทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองมากขึ้น ชาวบ้านจึงต้องมาช่วยซ่อมแซมกันเพื่อให้ใช้สะพานได้ชั่วคราว อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รีบเข้ามาแก้ไขปัญหา เพราะชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมาก