สาวควบเก๋งชน จยย.คุณตาวัย 72 ปีดับคาที่ หลังเลี้ยวตัดหน้าเข้าปั๊มน้ำมันกะทันหัน

( 17 ธ.ค. 61 )  พันตำรวจโท ธีรพล เพิ่มพูล ร้อยเวรสอบสวน สภ.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุ จากศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรท่าตูมว่า ว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต ที่ทางหลวงสาย 215 หลักกิโลเมตรที่ 88-84  อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ไป อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ จุด อ.ท่าตูม เดินทางไปที่เกิดเหตุ

บริเวณเกิดเหตุ หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก พบรถเก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน เซฟิโร่ ทะเบียน ภฉ 8286 กรุงเทพมหานคร คนขับคือ นางรภัสรดา  อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร ชนกับจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

และมีผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อ คือ นายนาค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี ชาวบ้านโพนขวาว ต.โพนครก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตรวจสอบรถเก๋งพบ ว่า สภาพด้านหน้าข้างซ้ายแตก กระจกไฟหน้าแตก ยางแตก กระจกประตูรถข้างซ้ายแตกละเอียด และมีถุงลมนิรภัย ภายในรถทำงานเปิดทั้งสองข้าง 

โดยเศษชิ้นส่วนรถทั้งมอเตอร์ไซค์และรถเก๋งหล่นกระจัดกระจาย ส่วนสภาพคนขับรถมอเตอร์ไซค์ กระเด็นออกจากตัวรถไปคนละทิศละทาง ศีรษะตกลงไปในน้ำ ในทุ่งนาข้างถนนเสียชีวิตคาที่

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นางรภัสรดา เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อจะกลับไปทำงานที่จังหวัดยโสธร พอขับออกจากแยกไฟแดงระหว่างแยกท่าตูมไป เขต อ.สุวรรณภูมิ  จ.ร้อยเอ็ด พอถึงช่วงหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก จู่ๆ มีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งตัดหน้า เพื่อที่จะเข้าปั๊ม

โดยตนเองก็ขับรถมาอาจจะด้วยความเร็ว ทำให้ตัวเองหักหลบไม่ทัน ชนมอเตอร์ไซค์อย่าจัง และหลังจากนั้นตนเองก็จอดรถไม่ได้หนีไปไหน ลงจากรถ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิต ให้เล่าผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์  กำลังจะไปซื้อน้ำมัน เพื่อที่จะเอามาเติมรถกระบะ เพื่อจะไปขนฟางข้าวในทุ่งนา ซึ่งบ้านของผู้ตายห่างจากปั๊มน้ำมันประมาณ 1 กิโลเมตร จู่ๆ ก็มีคนวิ่งมาบอกว่า พ่อถูกรถชนตายที่หน้าปั๊มน้ำมัน พอมาดูแทบรับสภาพไม่ได้

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้นำรถที่เกิดอุบัติเหตุ ไปเก็บไว้ที่ สภ.ท่าตูม ส่วนคนตาย กู้ภัยได้นำร่างไปที่ โรงพยาบาลท่าตูม เพื่อให้แพทย์ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต

ขณะที่ตำรวจได้เชิญคนขับรถเก๋งไปสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป