เตือนภัยร้านทอง! หนุ่มนำ "ทองปลอม" มาจำนำรวบได้ 1 ราย แต่คาดแก๊งยังลอยนวล

พ.ต.อ.ภูวดิท คงเพ็ชร ผกก.สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากนางรุ่งลาวัณย์ เจนสิริลักษณ์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านทองริมน้ำในตลาดอู่ทองว่า ได้จับคนร้ายนำทองปลอมมาหลอกขายไว้ได้ จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.นิธิศ ศรีพรหมคำ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วิโรจน์ หอมเย็น สว.สส. นำกำลังสายตรวจและชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุภายในร้านทองพบเจ้าของร้านและบรรดาเจ้าของร้านทองต่างๆ ในพื้นที่หลายราย กำลังยืนห้อมล้อมผู้ต้องไว้เพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนีเจ้าหน้าที่จึงสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าตนชื่อนายไพรัตน์ อายุ 40 ปี จึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่โรงพัก จากการสอบถามนางรุ่งลาวัณย์ เจ้าของร้านทองริมน้ำเล่าว่าขณะกำลังยืนรอบริการลูกค้าอยู่ในร้าน ผู้ต้องหาซึ่งเดินเข้ามาเพียงลำพังได้ทำทีเข้ามาสอบถามว่าจำนำทองมาจำนำคิดราคายังไง คิดดอกเบี้ยยังไงต้องส่งเดือนละเท่าไหร่ ตนจะนำทองหนัก 3 บาทมาจำนำขอ 50,000 บาท

ตนสังเกตเห็นผู้ต้องหามีอาการผิดปกติจึงพูดถ่วงเวลา ไว้พร้อมกับโทรศัพท์ไปบอกญาติซึ่งเป็นเจ้าของร้านทองด้วยกันโดยพูดภาษาจีน ให้ส่งคนมาดูหน่อย ขอผู้ชายนะ เนื่องจากถ้าเป็นคนร้ายจะได้ล็อกตัวไว้เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนร้ายนำทองปลอมมาขายในตลาดอู่ทอง โดนกันไปแล้วหลายรายเมื่อญาติมาถึงตนจึงถามว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ เมื่อญาติยืนยันว่าใช่จึงช่วยกันจับตัวไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปสอบสวน

ทางด้าน พ.ต.อ.ภูวดิท คงเพ็ชร ผกก.สภ.อู่ทอง กล่าวว่าจากการสอบถามเจ้าของร้านทอง ทราบว่าขณะนี้มีร้านทองถูกผู้ต้องหารายนี้นำสร้อยคอทองปลอมมาตระเวนขายทำให้สูญเงินเงินไปแล้วรายละหลายหมื่นบาท บางรายกว่า 100,000 บาท โดยผู้ต้องหาได้เข้ามาก่อเหตุตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. จากนั้นวันที่ 4-6-12- และวันที่ 17 ธ.ค. คนร้ายรายนี้เกิดความย่ามใจ ที่ผ่านมาได้ก่อเหตุสำเร็จจึงเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีกและวันนี้คนร้ายได้นำทองปลอมไปขายให้กับร้านทองในตลาดอู่ทอง ถึง 3 ร้านโดยร้านที่ 1 และร้านที่ 2 คนร้ายสามารถจำนำทองปลอมได้สำเร็จได้เงินไปแล้ว 100,000 บาท

ขณะกำลังเข้าไปก่อเหตุร้านที่ 3 เจ้าของร้านไหวตัวทัน เนื่องจากทางสมาคมร้านทองได้แจ้งเตือนกันก่อนหน้าว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุนำทองปลอมมาจำนำให้ระวังกันด้วย จากนั้นไม่ถึง 30 นาทีคนร้ายก็โผล่มาจริงๆ เจ้าของร้านซึ่งได้รับการแจ้งเตือนมาแล้วพร้อมกับรูปร่างลักษณะคนร้ายที่เป็นชายร่างอ้วนสวมเสื้อลายทางขวานุ่งกางเกงขาสามส่วนเข้ามาในร้าน จึงชวนคนร้ายพูดคุยถ่วงเวลาไว้พร้อมกับโทรศัพท์ไปหาญาติโดยพูดเป็นภาษาจีนให้ญาติส่งคนมาดูลักษณะคนร้ายที่ก่อเหตุก่อนหน้านี้ คนร้ายฟังภาษาจีนไม่ออก จึงพลาดท่าถูกจับได้พบว่าสร้อยทองที่คนร้ายมาจำนำทั้งหมดจะมีน้ำหนักเส้นละ 1 บาท 2 บาทและ 3 บาท ซึ่งจะเป็นลวดลายเดียวกันทั้งหมด

จากการสอบสวนคนร้ายให้การอ้างว่าสร้อยทองดังกล่าวรับจำนำมาจากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าบ่อนการพนันดังกล่าวอยู่ที่ไหน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายนั้นเชื่อได้ว่าลงมือก่อเหตุกันเป็นแก๊งไม่ได้ลงมือคนเดียว ซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนขยายผลหาหลักฐานพร้อมกับประสานท้องที่อื่นๆ ที่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ จากการสังเกตการณ์แต่งตัวของคนร้ายแต่ละครั้งจะสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายทางขวางนุ่งกางเกงขาสามส่วนเข้ามาก่อเหตุทุกครั้ง