เตรียมส่งสำนวนคดี "อดีตผู้การฯ เลย" โกงเงินตำรวจหลังปีใหม่

ศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ตำรวจภูธรภาค 4 เตรียมส่งสำนวน การสอบสวนคดีอดีตผู้การฯ จ.เลย โกงเงินตำรวจเลย กว่า 270 แฟ้ม รวมกว่า 50,000 แผ่น เสนอต่อ "รอง ผบ.ตร." ลงความเห็นก่อนส่งฟ้องศาลดำเนินคดีหลังปีใหม่

วันที่ 18 ธ.ค. 61 ที่ศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ตำรวจภูธรภาค 4 คณะพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้ทำการตรวจความพร้อมและนำสำนวนคดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย

ที่คณะทำงานจากสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ได้ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้สำนวนคดีที่อยู่ในความดูแล และดำเนินการของตำรวจภูธรภาค 4 ได้เสร็จสิ้นแล้วมารวบรวมไว้ ก่อนจะบรรจุลงในกล่องพลาสติกทึบแสง ซึ่งมีอยู่กว่า 270 แฟ้ม รวมกว่า 50,000 แผ่น

โดยในการขนย้ายจะใช้รถควบคุมตัวผู้ต้องขัง ซึ่งถูกใช้เป็น ยานพาหนะในการนำส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมด เพื่อส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เพื่อเสนอต่อ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ล่าสุด คณะพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยว่า จะมีการนำส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมดหลังปีใหม่

พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางคณะพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ที่ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา

เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีพลตำรวจตรี สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่หลอกให้ตำรวจใน จังหวัดเลย เข้าร่วมโครงการกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลย จำนวน 240 ล้านบาท และหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานให้ร่วมลงทุน มูลค่าอีกกว่า 1,000 ล้านบาท

ซึ่งขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนได้ทำการสรุปสำนวนการสอบสวนต่างๆ พร้อมกับมีการลงความเห็นประกอบในสำนวนแล้ว จึงมีการเตรียมนำส่งสรุปสำนวนการสอบสวนทั้งหมดไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเสนอต่อ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เพื่อที่จะตรวจสอบสอบก่อนลงความเห็นว่า สำนวนที่ส่งไปนั้น ยังมีเรื่องที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ หากมีประเด็นใดที่ยังต้องแก้ไข ก็จะนำกลับมาดำเนินการเพิ่มเติมให้เรียบร้อย แต่หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความครบถ้วนสมบูรณ์ ก็จะลงความเห็น และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก เป็นข้าราชการตำรวจ จำนวน 196 นาย รวมมูลค่า ความเสียหายกว่า 240 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังพบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เชื่อมโยงไปถึงคดีแชร์ลูกโซ่ในพื้นที่ภาคอีสานและหลายจังหวัดทั่วประเทศ

รวมมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีกว่า 30 คนมารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาร่วมกัน ฉ้อโกงอันเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งมีผู้ต้องหาสำคัญ

ประกอบด้วย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดเลย, พล.ต.อ.เฉลิมพล ยอดประทุม, น.ส.ธิญาดา วิภาวรกานต์ อายุ 40 ปี และนายเกรียงไกร เกตพิบูลย์ อายุ 36 ปี โดยขณะนี้มีเพียง น.ส.ธิญาดา ที่ถูกออกหมายจับ และหลบหนีการจับกุม ส่วนรายอื่นๆ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว