แก๊งรถทัวร์ดัดแปลงท้ายบัสเป็นห้องเก็บกระเป๋า ฉกทรัพย์สิน-รื้อค้นกระเป๋านักท่องเที่ยว

พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.3 ทท. บช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พาเดินดูรถของกลาง รถบัสโดยสารสายสุราษฎร์ธานี-เกาะสมุย สีฟ้าขาว ป.2 ของบริษัทสมุยทัวร์ จำกัด ที่ดัดแปลงทางออกประตูฉุกเฉินด้านท้ายรถให้กลายเป็นห้องเก็บสัมภาระเพิ่ม

โดยห้องเก็บสัมภาระดังกล่าวทำล็อกกุญแจจากภายนอกรถ ส่วนประตูทางออกฉุกเฉินที่เชื่อมในห้องโดยสารจากที่ต้องเปิดจากในห้องโดยสาร ก็ทำเป็นกลอนล็อกให้เปิดจากห้องเก็บของใหม่ที่ทำขึ้นได้ เพื่อความสะดวกในการขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

หลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ นางสาวชญาดา นายเอกพันธ์ และนายสนชัย ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในยานพาหนะอื่นที่ประชาชนใช้โดยสารหรือรับของโจร และร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยไม่มีสิทธิ์

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 Mr.Drendan Hawryluk อายุ 26 ปี สัญชาติแคนาดาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยว่า มีการใช้เงินในบัตรเครดิตของตน ซึ่งไม่ได้เกิดจากตนเองเป็นผู้ใช้ สถานที่ใช้บัตรอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวนเงินที่ใช้ไป 6,253 ดอลลาร์สหรัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จึงพาตัว Mr.Brendan Hawryluk เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบได้รวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าว พร้อมกับพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องจนเพียงพอนำไปสู่การขอหมายจับบุคคลจำนวน 3 คน ต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยจากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายกลุ่มนี้มีเจตนาต้องการลักทรัพย์โดยเฉพาะ เมื่อเจอเป้าหมายชาวต่างชาติก็จะนำกระเป๋ามาเก็บในห้องนี้ เมื่อรถจะออกก็จะมีเด็กรถเข้าไปในห้องทางด้านท้ายรถรื้อค้นทรัพย์สินขณะรถวิ่งอยู่ เมื่อเสร็จภารกิจก็จะเปิดประตูที่ทำกลอนเพิ่มจากด้านในห้องเก็บของใหม่ขึ้นไปในห้องโดยสารได้ทั้งที่รถเคลื่อนที่ก่อนจะนำทรัพย์สินที่ได้ไปใช้

หลังจากนั้นในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ร่วมกับ กองกำกับสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป การกระทำของกลุ่มขบวนการดังกล่าว เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายในสายตาและความรู้สึกของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเสียหายอย่างมาก