ลูกสาวร้องสื่อ พ่อขับรถบรรทุกอ้อย โดนเจ้าหน้าที่กระทืบเจ็บปางตาย
ร้องเรียนสื่ออ้างเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบททำร้ายร่างกายเจ็บปางตาย หลังขับรถบรรทุกอ้อย แต่ไม่มั่นใจว่าจะถูกจับกุมหรือไม่ หลังเกิดเหตุขอเจรจา แต่ญาติไม่ไว้ใจ
(20 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความเป็นธรรมจาก นางสาวอุไรวรรณ อายุ 31 ปี เนื่องจากพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท ได้ยกพวกรุมทำร้ายร่างกาย กระทั่งซี่โครงหัก ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย แล้ว ฝ่ายคู่กรณีขอเจรจาเยียวยาประนีประนอม แต่ทางครอบครัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความธรรม
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นกับ นายคำเส็ง อายุ 57 ปี เมื่อช่วงเที่ยงวันของวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขับรถยนต์ไปตามทาง เมื่อถึงถนนสายบ้านบึงสวรรค์-บ้านเหมืองแบ่ง ได้พบเห็นรถตำรวจทางหลวงขับตามมา ด้วยความกลัวว่าจะบรรทุกอ้อยเกินน้ำหนักหรือไม่ จึงได้จอดรถเข้าข้างทางและเข้าไปนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านหลังหนึ่ง
ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้จอดรถและเดินลงมาหา ด้วยความตกใจจึงได้ลุกขึ้นวิ่งหนีไปราวๆ 2 กิโลเมตร กระทั่งรู้สึกเหนื่อยหอบ ทันใดนั้นมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทขับรถกระบะตามมาอีก บนรถมี 8 คน โดยมี 3 คนเข้ามารุมทำร้าย เตะต่อยและกระทืบจนหมดสติ ก่อนที่จะมีชายอีก 2 คน ช่วยกันอุ้มร่างขึ้นมา โดยมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์และถ่ายรูปเอาไว้ได้
เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า นายคำเส็ง มีอาการซี่โครงซ้ายหัก หากมาถึงโรงพยาบาลช้าอาจจะเสียชีวิตได้ ขณะนี้อาการล่าสุดดีขึ้นเล็กน้อย แต่แพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และหลังจากเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทได้ติดต่อมาขอเจรจากับสิ่งที่เกิดขึ้น
ลูกสาวของนายคำเส็ง เล่าต่อว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหมดทราบว่าเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อตั้งด่านตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกอ้อย โดยล่าสุดได้เจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้เดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมเป็นเงิน 360,000 บาท แต่ทางครอบครัวไม่มีหลักประกัน และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีนี้ จึงตัดสินใจนำเรื่องร้องเรียนกับสื่อมวลชนและขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด