ระดมทุกความช่วยเหลือยื้อชีวิต “พังใบตอง” ลูกช้างป่าถูกบ่วงสลิงชาวบ้านรัดขาใกล้ขาด
( 22 ธ.ค. 61 ) นายเผด็จ ลายทอง ผอ.สวนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.2 สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) พร้อมกำลังได้นำช้างพังแรกเกิดชื่อ “ใบตอง” วัย 1 เดือน เดินทางมาจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่างฤาไน จ.ระยอง นำส่ง “สวนนงนุชพัทยา” อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อให้ทำการช่วยเหลือลูกช้างพังตัวนี้อย่างเร่งด่วน
หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกแรกถูกบ่วงสลิงรัดที่ขาหน้าด้านซ้ายเป็นเวลานาน จนสายสลิงรัดกินเนื้อลึกเข้าไปจนถึงกระดูก และมีร่างกายอ่อนเพลียอย่างหนัก
โดยมี นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา พร้อมด้วยคณะแพทย์ และเจ้าหน้าที่จัดสถานที่และเครื่องมือในการช่วยเหลือไว้อย่างเต็มที่
นายเผด็จ ลายทอง ผอ.สวนอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างลักษณะผอมโซเดินอยู่ชายป่า โดยที่ขาหน้าข้างซ้ายมีลวดสลิงรัดอยู่จนแน่นกินลึกเข้าไปในเนื้อ จึงนำกำลังไปตรวจสอบก่อนช่วยลูกช้างด้วยการนำสลิงออกแล้วนำมาบำบัดที่อุทยานฯ ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา
แต่ปรากฎว่า อาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากแผลเริ่มมีอาการติดเชื้อและกินลึกขึ้นตลอดเวลา ที่สำคัญยังไม่ยอมกินอาหาร เนื่องจากเป็นวัยที่ยังต้องการนมจากแม่ช้างโดยตรง จึงได้เร่งประสานสวนนงนุชพัทยาเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยก่อนหน้านี้เคยนำ “ฟ้าแจ่ม” ช้างเพศผู้ที่โดนบ่วงนายพรานรัดขาจนขาด ซึ่งทางสวนนงนุชได้รักษาและใส่ขาเทียมจนมีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
ขณะที่ สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ญ นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เปิด เผยว่าอาการของ “ใบตอง” ไม่สู้ดีนัก เนื่องจากคงถูกบ่วงรัดแน่นมาเป็นเวลานานจนกินลึกเกือบถึงกระดูก หลังรับตัวจึงได้ทำการห้ามเลือด ห้ามหนองและตัดเนื้อร้าย โดยใช้เครื่องมือเลเซอร์ในการสมานและฆ่าเชื้อซึ่งช่วงแรก ลูกช้างตัวดังกล่าวได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสแกนแผลพบว่า ขาที่เกือบขาดนี้ยังมีเส้นเลือดบางสวนที่ยังส่งเลือดไปเลี้ยงอยู่ จึงทำให้เพียงการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพื่อรอให้เลือดหยุดสูบฉีดไปเลี้ยงที่ขา จากนั้นจึงจะมาพิจารณาขั้นตอนการตัดขาอีกครั้ง ซึ่งหากดำเนินการตัดขาจริงนั้น ก็คงต้องใช้ขาเทียมเหมือน ลูกช้างฟ้าแจ่ม ซึ่งขณะนี้ยังตอบอะไรมากไม่ได้แต่จะพยายามดูแลให้ดีที่สุด
ด้าน นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่าเวทนาอย่างมาก เพราะช้างเป็นสัตว์คู่บ้าน คู่เมือง แต่ต้องมารับเคราะห์กรรม ทั้งๆ ที่คนไปบุกรุกป่าหรือที่อยู่อาศัยของสัตว์
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางสวนนงนุชก็พร้อมดูแลให้อย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือ “ใบตอง” เป็นช้างเด็กที่จำเป็นต้องกินนมจากแม่ช้าง ขณะที่ทางสวนนงนุชในปีนี้ไม่มีช้างตกลูก จึงได้ประสานไปยังฟาร์มหรือสวนช้างในพื้นที่เพื่อขอน้ำนมจากแม่ช้างตัวอื่น
ซึ่งปัจจุบันก็ได้รับความช่วยเหลือมาแล้ว โดยคาดว่า จะสามารถรักษาและช่วยชีวิต “ใบตอง” ให้กลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ เหมือนกับ “ฟ้าแจ่ม” ลูกช้างตัวก่อนที่สวนนงนุชได้ช่วยมาแล้ว
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ