หนุ่มแชร์หน้าบวมๆ โอดตำรวจทำร้าย พลิกตลบที่แท้ขัดขืน-ประวัติติดคุกอื้อ

โลกโซเชียลต่างเห็นใจ หลังหนุ่มแชร์ภาพหน้าบวมช้ำ อ้างถูกตำรวจทำร้าย ซ้ำไม่รับแจ้งความ แต่สุดท้ายเรื่องพลิกตาลปัตร ที่แท้ขัดขืนต่อสู้ตำรวจ หลังถูกจับมียาบ้าติดตัว

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพและข้อความ ระบุว่า โดนจับแต่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ทำร้ายร่างกาย พอจะแจ้งความกลับ ปรากฏว่าพนักงานตำรวจก็ไม่รับแจ้งความ พร้อมกับตัดพ้อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ผู้คนในโซเชียลมีเดียต่างวิพากษ์วิจารณ์และรู้สึกเห็นใจเป็นจำนวนมาก

ขณะที่บางคนก็ยังรู้สึกสงสัยในข้อเท็จจริง เนื่องจากแคลงใจว่าหากไม่ได้ทำผิด ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงมาจับกุม บางแหล่งข้อมูลก็อ้างว่าฝ่ายผู้ต้องสงสัยขัดขืนและกัดแขนเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ทั้งยังแสดงความคิดเห็นว่าการทำเรื่องราวเช่นนี้มาเผยแพร่ อาจจะโดนฟ้องกลับเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือ หมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ทำให้ทราบว่าเหตุดังกล่าวกเดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. คืนวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ที่ผ่ามา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ พร้อมกับสายตรวจชุดที่ 3 ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามมาตรการจุดตรวจล้อมเมือง บริเวณสี่แยกโพธิ์ล้ม

ปรากฏว่ามีชายขับขี่รถจักรยานยนต์มีพฤติกรรมน่าสงสัย เมื่อพบเจอจุดตรวจได้พยายามขี่รถหลบหนีไปอีกเส้นทาง ก่อนจะขี่ไปเจอเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวนทางมา ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเพื่อขอตรวจค้น ต่อมาค้นพบว่าชายคนดังกล่าวมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือ ยาบ้า อยู่ในความครอบของ จำนวน 21 เม็ด ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง

แต่ระหว่างนั้น ชายคนดังกล่าวจึงได้ขัดขืนการจับกุม พร้อมทั้งพยายามที่จะแย่งปืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ผู้ต้องสงสัยได้กัดเข้าที่แขนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ได้รับบาดเจ็บ จึงมีการต่อสู้ป้องกันตัวกันขึ้น โดยมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยเหลือตำรวจ ในการควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ต่อมาทราบชื่อคือ นายพลพรต อายุ 29 ปี

หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหามียาเสพประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งข้อหาต่อสู้ ขัดขวาง เจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ นายพลพรต นั้น เคยมีประวัติอาชญากรรมมาหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2550 ฐานครอบครองยาเสพติด ต่อมาในปี 2552 ฐานครอบครองอาวุธปืน ในปี 2556 ถูกจับกุมฐานเสพยาเสพติด ในพื้นที่ อ.ศรีเทพ และเมื่อปี 2557 ก็ถูกจับได้อีกครั้งในข้อหาครอบครองยาเสพติด กระทั่งมาถูกจับได้ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5