ผัวโหด...แต่เมียโหดกว่า เห็นภาพบาดตา-โดดเตะเจอแทงสวนดับ

สามีใหม่เห็นภาพบาดตา สามีเก่านั่งกินเหล้ากับภรรยาสุดที่รัก ปรี่เข้ากระโดดเตะก้านคอเมียกลางวง อีกฝ่ายยัวะชักมีดแทงสวนกลับไป คิดว่าคงไม่เป็นอะไร สุดท้ายมานอนตายข้างเล้าไก่

(24 ธ.ค.) ร.ต.อ.จันทร์ติ วรรณูปถัมภ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณข้างเล้าไก่ ม.4 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง จึงรายงาน พ.ต.อ.วราวุธ ชัยเจริญ ผกก. สภ.บ้านกร่ำ รับทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิพัฒน์ อภิญ สวป.ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม (สายตรวจ) มูลนิธิกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์เมืองแกลงจำนวนหนึ่ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายประพัฒ อายุ 41 ปี สภาพศพนอนตะแคงใส่กางเกงยีนส์ขายาว ไม่ใส่เสื้อ บริเวณหน้าท้องด้านขวาถูกของมีคมแทง และมีคราบเลือดไหลแห้งเกรอะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตาม นางสุชาดา อายุ 50 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต มาสอบสวน ก่อนจะรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงนายประพัฒเสียชีวิต

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ นางสุชาดา นำอาวุธมีดปลายแหลมที่มีคราบเลือดติดอยู่ มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐาน และนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นางสุชาดา ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อคืนวานนี้ได้นั่งดื่มสุรากับนายประพัฒ ที่บ้านพักเรือนไทยในสวนผลไม้ แต่อยู่ๆ นายประพัฒ ก็เดินหายไป และต่อมา นายชาลี อายุ 59 ปี มาพร้อมกับ นายสมนึก อายุ 43 ปี และ นางรัตนโมรา ที่เป็นเพื่อนกันได้มานั่งดื่มสุราด้วย จากนั้น นายประพัฒ ได้เดินกลับมา ก่อนจะปรี่เข้ามาเตะทำร้ายตนอย่างไร้เหตุผล

เบื้องต้นเชื่อว่า นายประพัฒ น่าจะก่อเหตุด้วยความหึงหวง เนื่องจากในวงเหล้านั้นยังมี นายชาลี ซึ่งเป็นสามีเก่าของตน นั่งร่วมวงอยู่ด้วย ซึ่ง นายประพัฒ อาจจะคิดว่าตนจะกลับไปคืนดีกับสามีเก่า ด้วยบันดาลโทสะตนจึงคว้ามีดปลายแหลมแทงไปที่หน้าท้องของนายประพัฒ และไม่เห็นเลือดออกและคิดว่าไม่เป็นอะไร

หลังจากนั้น นายประพัฒ จึงได้ตะโกนบอกว่า “กูจะไปแจ้งความตำรวจให้มาจับมึง” และนายประพัฒก็เดินหายไป จนมาทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมาว่า นายประพัฒ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างเล้าไก่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบสวน นางสุชาดา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายประพัฒ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อดำเนินคดีในกฎหมายต่อไป