รวบแล้ว-หนุ่มใหญ่สุดแสบอ้างเป็น จนท.การไฟฟ้าตุ๋นเก็บค่าไฟผู้เฒ่า-ชาวบ้านตาสีตาสา
( 25 ธ.ค. 61 ) พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.โสภณ วารี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัด จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วัฒนา เกษรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สภ.กมลาไสย พร้อมด้วยชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง
ร่วมแถลงผลการจับกุมตัว นายสุทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ชาวบ้าน ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้อหาลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และเป็นผู้ต้องตามหมายจับข้อหาลักทรัพย์ และฉ้อโกงทรัพย์ในหลายพื้นที่
พร้อมของกลางบิลเรียกเก็บค่าไฟ และกระเป๋าสะพาย หลังจากมีพฤติกรรมปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าไปหลอกชาวบ้านในหลายพื้นที่ เพื่อเปลี่ยนสายไฟ เสาไฟ มิเตอร์ และเรียกเก็บค่าไฟ ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินให้หลายราย
กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ และตำรวจ สภ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี จับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปอยู่กับภรรยาที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา
ซึ่งการแถลงข่าว ยังมีผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา และมีชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายนำกระเช้าดอกไม้มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ เพราะเป็นการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของ นายสุทิพย์ จะใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีดำ-แดง และพกแฟ้มเอกสารติดตัวแอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์ และอ้างว่า ได้รับคำสั่งการผู้ว่าการไฟฟ้าเข้าไปหลอกชาวบ้าน
โดยเลือกเหยื่อที่สูงอายุ และอยู่บ้านคนเดียวว่า เสาไฟฟ้าที่ชาวบ้านต่อเดินสายเข้าใช้ภายในบ้านเรือนอาศัย ซึ่งเป็นเสาปูนที่ซื้อจากร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป และบางหลังก็จะเป็นเสาไม้ไม่ได้มาตรฐานผิดกฎหมาย พร้อมทั้งหลอกให้ทำการเปลี่ยนเสาไฟซึ่งมีค่าดำเนินการเสาละ 8,000 บาท และหลอกเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าให้ชาวบ้าน ซึ่งมีค่าเปลี่ยนทั้งหมด 4,000 บาท
รวมทั้งมีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าไฟฟ้า ซึ่งเบื้องต้น มีชาวบ้านหลงเชื่อและเสียเงินไปแล้วหลายรายในพื้นที่ อ.คำม่วง อ.กุฉินารายณ์ และ อ.กมลาไสย
โดยจากการตรวจสอบประวัติ นายสุทิพย์ พบว่า มีหมายจับติดตัวอยู่จำนวน 5 หมาย ประกอบด้วย สภ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ สภ.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ในห้อหาฉ้อโกงทรัพย์ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ข้อหา ทำให้เกิดความกลัวโดยขู่เข็ญ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ในห้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น และฉ้อโกง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า นายสุทิพย์ ยังเคยถูกจับกุมตามหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ และฉ้อโกงทรัพย์มาแล้ว 4 คดีในพื้นที่ สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ สภ.พังโคน จ.สกลนคร และ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
พ.ต.อ.ชาตรี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่า ผู้ต้องหารายนี้น่าจะตระเวนก่อเหตุหลอกลวงประชาชนอีกหลายพื้นที่ ดังนั้นหากประชาชนคนใดเคยถูกคนร้ายรายนี้หลอกลวงก็สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที และเข้ามาชี้ตัวได้
พร้อมฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่างหลงเชื่อบุคคลที่มาแอบอ้างเป็นพนักงานของการไฟฟ้าฯ เพราะเท่าที่มีการประสานงานกับพนักงานของการไฟฟ้าไม่มีนโยบายดังกล่าว หากการไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือดำเนินการอันใดที่เกี่ยวกับไฟฟ้าทางการไฟฟ้าจะมีหนังสือแจ้งไปตามที่อยู่ของชาวบ้านและจะแจ้งให้ผู้นำชุมชนประกาศให้ทราบ
อย่างไรก็ตามถ้าประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการร้องเรียนสามารถโทรสอบถามศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า 1129 PEA Call Center หรือหากพบมิจฉาชีพมาในลักษณะดังกล่าวควรแจ้งตำรวจในพื้นที่มาตรวจสอบทันที
ด้าน ร้อยตรีสมยศ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ชาว อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า สำหรับพฤติการณ์คนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์เข้ามาเก็บเงินค่าไฟฟ้า โดยนำบิลเงินค่าไฟที่มีชื่อที่อยู่เหมือนของจริง จากนั้นก็จะออกอุบายว่า เสาไฟฟ้าไม่ได้ขนาด ทางการไฟฟ้ากำลังจะมาเปลี่ยนเสาไฟฟ้าให้ในราคาเสาละ 2,000 บาท
ซึ่งตอนแรกตนยังไม่หลงเชื่อเรื่องการเปลี่ยนเสา แต่ได้จ่ายค่าไฟไปก่อน จากนั้นตนได้ขับรถออกไปทำธุระ พร้อมกับคนร้าย แต่คนร้ายย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้งเพื่อหลอกภรรยาว่า ตนได้ให้มาเอาค่าเปลี่ยนเสาไฟ ซึ่งภรรยาหลงเชื่อได้จ่ายเงินไปจำนวน 8,000 บาท
และคนร้ายยังได้ขโมยโทรศัพท์ที่วางไว้ก็ได้หายไป ซึ่งตนรู้ว่า ถูกหลอกจึงได้รีบเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่จนสามารถทำการจับกุมตัวคนร้ายได้
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ชาวบ้านกุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า คนร้ายเข้ามาหลอกว่ามีคำสั่งมาจากผู้ว่าการไฟฟ้าให้มาทำการติดตั้งและตรวจสอบเสาไฟฟ้าที่ใช้อยู่ความสูงไม่ได้มาตรฐานตามกฎหมายกำหนด
โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการยิงดาวเทียมตรวจสอบแล้วว่า ผิดกฎหมายจะต้องทำการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าใหม่ ซึ่งมีค่าดำเนินการเสาละ 8,000 บาท โดยจะต้องใช้ทั้งหมด 4 ต้น ซึ่งจะมีเงินสมทบจากรัฐเสาละ 2,000 บาท
ส่วนที่เหลือให้ออกเอง ซึ่งด้วยความที่ไม่รู้กฎหมายและกลัวความผิด ชาวบ้านจึงยอมจ่ายเงินที่เก็บหอมรอมริบมาจำนวน 8,000 บาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ