กลัวกฎหมายที่ไหน! แก๊งวัยรุ่นลวงหนุ่มวัย 15 ออกไปรุมล้างแค้น แทงสาหัสต้องตัดม้ามทิ้ง

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Panupan Jitra โพสต์ภาพและข้อความว่า "นนทบุรี บางใหญ่หรือโซนใกล้เคียง มีใครพอจะคุ้นๆหน้า หรือทะเบียนรถไหมครับ คันแรก ดรีม ซุปเปอร์คัพ สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน (ไฟท้ายแตก) คันสอง wave 110i สีแดงดำ ทะเบียน 7กฐ 814 กทม.วัยรุ่นกลุ่มนี้ ได้ก่อเหตุล่อรุ่นน้องในหมู่บ้านไปแทง เวลาโดยประมาณ16.30-17.50 ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว แล้วยังไม่รู้สึกตัว จึงสอบถามข้อมูลไม่ได้ ช่วยแชร์หน่อยก็ได้ครับ เพื่อหาตัวคนผิดมารับโทษ"

ซึ่งผู้โพสต์เป็นเพื่อนกับผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายซัน (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ขณะนี้บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เหตุเกิด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.61

ผู้สื่อข่าวได้พบ นายไกรวิทย์ อานุ 39 ปี และนางสังเวียน อายุ 39 ปี พ่อและแม่ของนายซัน ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทง ทราบว่าหลังเกิดเหตุน้องซันได้ขับรถจยย.กลับมาที่บ้านโดยร่างกายมีบาดแผลถูกแทง เลือดอาบ เพื่อนบ้านได้นำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ แพทย์บอกว่าน้องถูกแทงที่สีข้างซ้าย มีเลือดออกในช่องอกซ้ายและช่องท้อง ม้ามฉีกขาด กะบังลมฉีกขาด ต้องผ่าตัดตัดม้ามทิ้งไป 1 ข้าง จากนั้นได้ส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.บางใหญ่ และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน

ภาพจากกล้องวงจรปิดป้อม รปถ.หน้าหมู่บ้าน ถนนเลียบคลองถนน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี (เวลาไม่ตรง) บันทึกภาพคนร้ายขับรถจยย.มาจำนวน 2 คัน 6 คน ทั้งหมดเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 14-16 ปี รถจยน.คันแรกเป็นสีขาว-แดง มีคนร้ายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลืองเป็นผู้ขับขี่ คนซ้อนกลางสวมเสื้อแขนยาวสีขาว คนซ้อนท้ายสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน รถจยย.คนร้ายคันที่ 2 เป็นรถสีแดง คนขับจยย.สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ มีเพ้นท์ตัวหนังสือภาษาอังกฤษด้านหน้า คนซ้อนกลางสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล และคนซ้อนท้ายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน ขับเข้าประตูด้านหน้าหมู่บ้านผ่านป้อม รภป.เข้าไป

จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น.กล้องวงจรปิดหน้าป้อมยามฝั่งขาออกสามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายขับรถจยย.ออกมาได้ทั้ง 2 คน โดยขับประกบรถจยย.ของนายซัน ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นรถจยย.คันกลาง ซึ่งมีคนร้ายหนึ่งคนขึ้นไปนั่งประกบซ้อนท้ายผู้บาดเจ็บ จากนั้นได้ขับออกจากหน้าหมู่บ้านไปทาง อบต.บางแม่นาง

จากการสอบถาม นางสังเวียน มารดาผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าก่อนหน้านี้วันที่ 16 ธ.ค.61 มีเด็ก 2 คนในกลุ่มคนร้าย 6 คน ได้มาที่บ้านตน ตนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงตะโกนเรียกลูกชายตน จึงถามไปว่ามีอะไรกัน เขาบอกให้ลูกตนลงมาคุยกับเขาหน่อย ตนจึงเรียกลูกลงมา เขาก็ถามว่า "มึงบอกกูได้หรือยังว่าเพื่อนมึงชื่ออะไร อยู่หมู่บ้านไหน" น้องซันก็บอกว่ามีเรื่องกันตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านั้นน้องชายของคนที่มาที่บ้านมีเรื่องกับน้องซัน และเพื่อนของลูกมาช่วย ตอนนี้น้องชายคนร้ายหายเจ็บแล้วก็จะมาเอาคืน แต่คนร้ายจะไม่ทำอะไรน้องซันถ้าบอกว่าเพื่อนชื่ออะไร แต่น้องซันไม่ยอมบอก

ตนจึงบอกให้คนร้ายทั้งสองคนไปแจ้งตำรวจ อย่าใช้กฎหมู่แบบนี้ แต่คนร้ายบอกว่าตำรวจไม่ได้ช่วยอะไร เขาต้องการเอาคืน แต่ถ้าลูกตนไม่บอกเขาไม่รับรองชีวิตลูกตนและบ้านตนก็จะอยู่ยากด้วย ก่อนที่คนร้ายจะไปเขาได้โชว์ปืนและขับรถไป ตนเห็นปืนก็กลัวและเรียกสามีออกมา จากนั้นเขาก็ไป ตนคอยห้ามลูกไม่ให้ออกนอกบ้าน

วันเกิดเหตุตนไม่อยู่ไปทำงาน ลูกชายอยู่คนเดียว ตนมาทราบเหตุหลังจากเพื่อนบ้านโทรบอกกับสามีตน และสามีโทรมาบอกตน ตนจึงไปที่โรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ไปแจ้งความ หลังจากลูกหายจึงจะดำเนินเรื่องได้ วันนี้ก็มาเอาหลักฐานไปเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ตนจำหน้าคนที่มาขู่ที่บ้านได้ทั้ง 2 คน วันที่แทงลูกชายตน 2 คนนี้ก็มา อาการตอนนี้ลูกต้องพักอย่างน้อย 30 วัน ทานอาหารไม่ได้ เจาะซี่โครงเอาเลือดออก

หมอบอกว่าแผลถูกแทงเข้าลึกหมอบอกว่าค่าใช้จ่ายสูง ม้ามฉีกเลือดออกตลอด ตนก็ต้องยอมไม่งั้นลูกจะตาย โดยตัดม้ามทิ้งไปหนึ่งข้าง ค่าใช้จ่ายประมาณ 220,000 บาท โดยโครงการของยูนิเซฟช่วยไว้ จ่ายให้ทั้งหมด ตอนนี้อยากให้ตำรวจตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ครอบครัวตนก็กลัว หลังจากที่ขู่คนร้ายก็วนเวียนมาตลอด ถ้าจับไม่ได้ก็ยังหวาดกลัวอยู่แบบนี้

จากการสอบถาม นายซัน (นามสมมุติ) ผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าตอนสี่โมงเย็นนั่งอยู่หน้าบ้าน คนร้ายได้เดินมาหน้าบ้านแล้วถามว่าจะเอายังไง ให้พาไปหาเพื่อน กลุ่มคนร้ายมา 6 คนถืออาวุธมาเต็มมือ ตนเองจึงล็อกบ้านและยอมไปด้วย ตอนแรกเขาบอกว่าจะไม่ทำอะไร และให้คนร้ายอีกคนซ้อนประกบ ตนจึงได้ขับรถจยย.โดยมีคนร้าย 1 คนซ้อนท้ายไป เมื่อถึงหน้าอนามัย ต.บางแม่นาง คนร้ายที่ขับรถจยย.อีกคันหันมีดมาหา จากนั้นคนที่ซ้อนได้ใช้มีดแทง จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ตีและทำลายรถ ตนเรียกให้ใครช่วยก็ไม่มีคนช่วย ต้องรอให้กลุ่มคนร้ายไปก่อนจึงขับรถจยย.กลับมาที่บ้าน และเพื่อนบ้านได้พาไปหาหมอ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ขณะนี้รู้ตัวคนร้ายทั้ง 6 คนแล้วอยู่ระหว่างชี้ตัวคนร้าย โดยมีการติดตามกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุว่าสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุได้หรือไม่ และจะทำการออกติดตามตัวกลุ่มคนร้ายทั้ง 6 เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป