หมออินเดียสุดโหด! ผลักเมียน้อย "ตกหน้าผาดับ" แถมสวมรอยเล่นเฟซบุ๊ก 7 เดือนไม่ให้จับได้
ตำรวจอินเดีย จับกุม ดร.ดาร์เมนดรา ปราทาป ซิงห์ ศัลยแพทย์ชาวเมืองโกรัขปูร์ และผู้ต้องหาอีก 2 คน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) เนื่องจากความผิดฐานฆาตกรรมอดีตภรรยาน้อย นางราคี ศรีวัสตาวา ด้วยการผลักตกหน้าผาในเมืองโปครา ประเทศเนปาล และสวมรอยเล่นเฟซบุ๊กแทนเธอนานถึง 7 เดือน เพื่อไม่ให้จับได้
ตำรวจสงสัยสามีใหม่ฆ่า
คดีนี้ต้องเล่าย้อนกลับไปถึงตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา นางศรีวัสตาวา ผู้ตาย ไปเที่ยวประเทศเนปาลกับนายมานิช ซินฮา สามีใหม่ชาวเมืองคยา รัฐพิหาร แต่หลังจากนั้นครอบครัวของเธอก็ติดต่อไม่ได้ จนน้องชายของผู้ตายไปแจ้งความว่าเธอหายตัวไปเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งสงสัยว่านายซินฮา สามีใหม่ เป็นคนลักพาตัวไปแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าตายไปแล้ว เพราะโซเชียลมีเดียของเธอยังมีการโพสต์สถานะเป็นระยะ
หลังจากนั้นทีมสอบสวนพิเศษของอินเดีย ได้ไปสืบเรื่องที่เมืองที่เกิดเหตุ ตำรวจท้องถิ่นบอกกับทีมสอบสวนพิเศษว่าต้นเดือน มิ.ย. มีการนำศพผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาจากหน้าผา ทีมสอบสวนจึงนำศพไปพิสูจน์ว่าเป็นใคร ซึ่งความจริงก็ปรากฏว่าเป็นร่างของนางศรีวัสตาวา
คดีพลิก! สามีเก่าเป็นคนฆ่าหลังแกะรอยจนเจอมือถือ
นายซินฮา ให้การกับตำรวจว่า ระหว่างที่ไปเที่ยวกันตนกลับบ้านมาก่อน และปล่อยให้นางศรีวัสตาวาเที่ยวคนเดียว ซึ่งระหว่างนี้โซเชียลมีเดียของนางศรีวัสตาวาก็ยังเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ และเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมาตำรวจไปแกะรอยโทรศัพท์ของเธอ พบว่าอยู่ที่เมืองกูวาฮาตี รัฐอัสสัม และสืบจนทราบว่า ดร.ซิงห์ ไหว้วานให้คนๆ หนึ่งนำโทรศัพท์มาไว้ที่เมืองดังกล่าว ทำให้สามีเก่าของเธอคนนี้ตกเป็นผู้สงสัยอันดับ 1
ดร.ซิงห์ สารภาพว่า ตนได้ผลักอดีตภรรยาตกหน้าผาจริง โดยมีผู้ต้องหาอีก 2 คนช่วยกันวางแผน เพราะก่อนหน้านั้น นางศรีวัสตาวาขู่ว่าจะเปิดเผยความสัมพันธ์เพื่อเรียกร้องเอาเงินและทรัพย์สินอื่นๆ จึงต้องฆ่าให้ตาย
ตำรวจอินเดียระบุว่า นางศรีวัสตาวา ชาวเมืองโกรัขปูร์ รู้จักกับ ดร.ซิงห์ เมื่อปี 2549 หลังจากพาพ่อมารักษาตัว และค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ลับๆ กับ ดร.ซิงห์ เพราะฝ่ายชายแต่งงานแล้ว
นอกจากนี้ ตำรวจยังเผยอีกว่า ศัลยแพทย์คนนี้ซื้อบ้านในเมืองโกรัขปูร์ให้นางศรีวัสตาวา ก่อนแต่งงานกันอย่างลับๆ ในปี 2554 แต่หลังจากนั้น นางอูชา ซิงห์ ภรรยาตัวจริงของ ดร.ซิงห์ ทราบเรื่องเข้า จึงบังคับให้ศัลยแพทย์คนนี้แยกทางกับนางศรีวัสตาวา