"หมอพรทิพย์" สงสัย "น้องซูลุยผิว" เด็ก 2 ขวบ เดินไปถึงจุดพบศพได้อย่างไร

"หมอพรทิพย์" สงสัย "น้องซูลุยผิว" เด็ก 2 ขวบ เดินไปถึงจุดพบศพได้อย่างไร

"หมอพรทิพย์" สงสัย "น้องซูลุยผิว" เด็ก 2 ขวบ เดินไปถึงจุดพบศพได้อย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีการหายตัวไปของ ด.ช.ซูลุยผิว หรือ น้องต้าแง อายุ 2 ขวบ ชาวเมียนมา ที่เดินหลงหายเข้าไปในป่าอ้อย ม. 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ธ.ค.เจ้าหน้าที่พบศพ ด.ช.ซูลุยผิว ห่างจากจุดที่หายตัวไปประมาณ 5 กิโลเมตร นอนเสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

(27 ธ.ค.61) นางมอมอลวน แม่ของ ด.ช.ซูลุยผิว พร้อมด้วย นายสง่า สระศรีสม ผู้ใหญ่บ้าน, นายไพฑูรย์ แก้วบัวดี กำนันสระพังลาน และ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เปิดใจผ่านรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 28 SD

>> คาใจผลชันสูตร! แม่เด็กชายวัย 2 ขวบ ตายปริศนาในไร่อ้อย ลั่นยังไม่เผาศพลูก

โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ให้ความเห็นถึงการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานการเสียชีวิต ด.ช.ซูลุยผิว ว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน มีทั้งหลักฐานพยานบุคคล หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยพยานบุคคลเป็นการได้ข้อมูลต่างๆ ทั้งจากปากคำของแม่ และข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ส่วนพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ ต้องดูจุดที่พบศพเด็ก ใน 3 ระยะ ทั้งระยะไกล กลาง ใกล้ เพื่อตรวจดูให้แน่ชัดว่าระยะทางจากจุดที่เด็กหายตัวไป และจุดที่พบศพนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และเด็กสามารถเข้าไปยังจุดที่พบศพได้อย่างไร

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจหลักฐานต่างๆ ได้จากสภาพศพบนตัวเด็ก และบริเวณโดยรอบพื้นที่ รวมถึงวัตถุพยานต่างๆสามารถนำมาตั้งประเด็นได้หลายประเด็น โดยเฉพาะสภาพศพ ต้องหาสาเหตุการตาย ว่าอะไรคือสาเหตุตาย ส่วนการผ่าศพ ที่ระบุว่าขาดอากาศหายใจนั้น เป็นกลไกการตายต้องพิสูจน์ให้ลึกว่า อะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ขาดอากาศหายใจ ขณะที่พฤติการณ์แห่งการตาย จำเป็นต้องวัดระยะทางจากจุดที่เด็กหายตัวไปถึงจุดที่พบศพเด็ก ว่าเด็กเดินไปเองได้หรือไม่ ส่วนประเด็นเวลาตายซึ่งกรณีนี้ศพมีสภาพเน่าค่อนข้างระบุยากจึงจำเป็นต้องใช้ความรู้ด้านนิติเวชเข้ามาพิสูจน์ทราบ อีกหนึ่งประเด็นคือสถานที่การตาย ต้องสืบให้ทราบว่าเด็กตายที่ไหน หรือตายจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งหรือไม่

ส่วนประเด็นที่พ่อและแม่เด็กสงสัยว่าถูกกระทำให้ตาย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือมีใครทำให้ตาย ต้องหาคำตอบให้ได้ ซึ่งการส่งศพพิสูจน์ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย และคำตอบเดียวที่จะสรุปสาเหตุการตายได้ ซึ่งกรณีไม่พบร่องรอย ก็ไม่สามารถสรุปได้เช่นกันว่า เด็กเสียชีวิตเองหรือไม่ ต้องดูลักษณะโดยรอบภายใต้ข้อจำกัดการตรวจพิสูจน์ศพสภาพที่เน่าเปือย และต้องมีการประเมินสภาพบาดแผลด้วยว่าเป็นบาดแผลก่อนเสียชีวิต หรือหลังเสียชีวิต

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ตั้งข้อสงสัยเรื่องระยะทางจากจุดที่เด็กหายตัวไป ถึงจุดที่พบศพเด็ก ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่มีการนำข้อมูลเรื่องระยะมาตรวจสอบในภาพใหญ่ ซึ่งประเด็นนี้ต้องวัดระยะทางให้ชัดเจน รวมถึงจุดที่พบศพเด็กอยู่ใกล้คูน้ำ จึงจำเป็นต้องประเมินว่าเด็กสามารถเดินไปได้เองหรือไม่

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยังระบุด้วยว่าตามสิทธิขั้นพื้นฐานการรับรู้ข้อมูล พนักงานสอบสวนควรเปิดเผยรายละเอียดต่อญาติ หรืออาจจะติดต่อผ่านทางสถานทูต เพราะสถานทูตถือเป็นตัวแทนที่ชอบธรรม แม้พ่อและแม่ของเด็กจะเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายก็ตาม เพราะสถานทูตสามารถส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ หรือมีสิทธิแต่งตั้งทนายความ เพื่อขอข้อมูล จะทำให้กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเกิดความโปร่งใส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook