หนุ่มเล่านาทีระทึก 9 ชีวิตติดอยู่ในลิฟต์ 1 ชม. ปุ่มฉุกเฉินใช้ไม่ได้ ไฟดับ พัดลมพัง

หนุ่มโพสต์เล่านาทีชีวิต อยู่อยู่ในลิฟต์นานกว่า 1 ชั่วโมง ปุ่มฉุกเฉินใช้ไม่ได้ ไฟดับ พัดลมพัง ต้องปีนออกมาโดยมีเพียงเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือ

(30 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก Warunyoo Ketchu ได้เล่าเหตุการณ์ขณะ 9 ชีวิตติดอยู่ภายในลิฟต์ของอาคารแห่งหนึ่ง ย่านสนามเป้า เป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยไร้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจากเจ้าของอาคารและบริษัทเจ้าของลิฟท์ ซึ่งอาคารดังกล่าวมี 5 ชั้น และมีสถานบันเทิงชื่อดังตั้งอยู่ในอาคารดังกล่าว 3 ร้าน 

ผู้โพสต์ระบุว่า ตนและเพื่อนๆ ต้องการไปที่สถานบันเทิงซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึก แต่เนื่องจากคนเยอะจึงเดินขึ้นบันไดแทน แต่ปรากฏว่าทางเดินทั้งมืดและวกวน ทั้งยังมีราวตากผ้า รวมถึงจานที่ยังไม่ได้ล้างวางเกะกะ

เมื่อเดินไปเจอทางตัน ผู้โพสต์และเพื่อนๆ จึงเดินลงมาขึ้นลิฟท์ที่ชั้น 3 โดยผู้โดยสารในลิฟท์มีทั้งหมดรวม 9 คน ซึ่งประตูลิฟท์ก็ปิดเป็นปกติ ไม่มีการเตือนน้ำหนักเกินแต่อย่างใด ก่อนจะเหมือนชักขึ้น แล้วรูดล่วงลงมาค้างอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งง้างประตูลิฟท์ออกเปิดมามีแต่กำแพง

ทุกคนในลิฟท์พยายามกดปุ่มฉุกเฉิน แต่พบว่าปุ่มเสียติดต่อคนภายนอกไม่ได้ ซึ่งโชคดีที่คนในลิฟท์รู้จักเจ้าของตึก เจ้าของสถานบันเทิงที่อยู่ในตึก จึงโทรไปแจ้งข้อความช่วยเหลือ ขณะที่เบอร์ฉุกเฉินของบริษัทลิฟท์ที่ติดอยู่ ต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีถึงมีคนรับสาย และบอกว่าจะโทรกลับ

ผ่านไป 15-20 นาที เหมือนเคราะห์ซ้ำ เพราะระหว่างนั้น ไฟในลิฟต์ดับ พัดลมหยุดทำงาน และได้รู้ว่าสลิงขาดเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึง ขณะที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทลิฟต์มาหลังเหตุการณ์ผ่านไป 1 ชม. โดยมาถึงก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากยืนเฉยๆ

สุดท้ายแล้ว 9 ชีวิตในลิฟต์ตัดสินใจปีนออกไปชั้น 3 โดยมีกู้ภัยคอยช่วย และได้แผลมา 1 แผลที่มือ ซึ่งเมื่อออกมาที่ชั้น 3 แล้วก็พบว่ามีบันไดอีก แต่เป็นทางที่ติดป้ายว่า เฉพาะพนักงานเท่านั้น โดยผู้โพสต์ได้ยินพนักงานหลุดพูดออกมาว่าลิฟท์ค้างเพราะคนเยอะ ซึ่งเจ้าตัวรู้สึกว่าถ้าน้ำหนักเกินลิฟท์ควรไม่ทำงานหรือร้องเตือนมากกว่า

ทั้งนี้ ผู้โพสต์แสดงความคิดเห็นว่าอาคารดังกล่าวได้รับการต่อเติมอย่างไม่ได้มาตรฐานและอันตรายเป็นอย่างมาก, ภายในอาคารไม่มีสัญลักษณ์บอกเส้นทางหนีไฟ, ปุ่มฉุกเฉินในลิฟท์ก็ใช้การไม่ได้ และการจัดการแก้ปัญหาฉุกเฉินก็ล้มเหลวเป็นอย่างมาก

และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการขอโทษใดๆ จากผู้ดูแลตึก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเมื่อรอดชีวิตจากลิฟท์ก็ออกมาทันที อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ยืนยันว่าจะไม่ลบโพสต์ เพราะสิ่งที่โพสต์ทั้งหมดคือความจริง และที่มาเล่าเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้ต้องการอะไร