ยโสธรหนาวจัด-คร่าชีวิตเฒ่าวัย 84 นอนดับเดียวดายคาบ้านไร้ลูกหลานเหลียวแล

ยโสธรหนาวจัด-คร่าชีวิตเฒ่าวัย 84 นอนดับเดียวดายคาบ้านไร้ลูกหลานเหลียวแล

ยโสธรหนาวจัด-คร่าชีวิตเฒ่าวัย 84 นอนดับเดียวดายคาบ้านไร้ลูกหลานเหลียวแล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

( 1 ม.ค. 62 ) ร.ต.อ.ประเสริฐ  หล้าศักดิ์ ร้อยเวร (สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่า มีคนนอนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่ภายในบ้านพักบริเวณคุ้มบ้านใต้ เขตเทศบาลเมืองยโสธร จึงได้ประสานแพทย์เวรพร้อมด้วยอาสาฯ กู้ชีพของเทศบาลเมืองยโสธร เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงสภาพเก่าบริเวณพื้นบ้านชั้นบนพบศพของ นายวิชัย อายุ 84 ปี ชาวบ้าน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นอนหงายสวมเพียงกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดแขนสั้นตัวแข็งทื่ออยู่พื้นไม้กลางบ้านใกล้กับประตูทางเข้า

ตรวจสอบตามร่างกาย และบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรจากโรงพยาบาลยโสธรจึงได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพแล้วคาดว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะมาจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

จากการสอบถาม นายบุญทัน อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เพื่อนบ้านของผู้ตายและเป็นผู้ไปพบศพคนแรก บอกว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่บ้านพักตามลำพังคนเดียว เนื่องจากลูกหลานต่างมีครอบครัวและแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ปกติผู้ตายจะเป็นคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่พบว่ามีโรคประจำตัว

ซึ่งช่วงค่ำวานนี้ ( 31 ธ.ค. 61 ) ตนยังเห็นผู้ตายเข้านอนตามปกติ จนกระทั่งช่วงสายวันนี้ ( 1 ม.ค. 62 ) ตนไม่เห็นผู้ตายตื่นขึ้นมาตามปกติเหมือนเช่นเคย ตนจึงได้เดินขึ้นไปเรียกผู้ตายบนบ้านพักแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงได้งัดประตูบ้านเข้าไปจึงพบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่กลางบ้านแล้ว โดยสวมเพียงกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดแขนสั้นเท่านั้นโดยที่ไม่ได้ห่มผ้าห่มแต่อย่างใด จึงคาดว่าสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้น่าจะมาจากหัวใจล้มเหลว

ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นติดต่อกันมาแล้ว 2 วัน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนอุณหภูมิจะลดลงเหลือ 15 องศาเซลเซียส จนทำให้ผู้ตายทนกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นไม่ไหวและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จทางญาติไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้มอบศพให้กับญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook