ย้อนอดีตเส้นทางพายุ "โซนร้อนแฮเรียต-ไต้ฝุ่นเกย์" เทียบกับ "พายุปาบึก"

ย้อนอดีตเส้นทางพายุ "โซนร้อนแฮเรียต-ไต้ฝุ่นเกย์" เทียบกับ "พายุปาบึก"

ย้อนอดีตเส้นทางพายุ "โซนร้อนแฮเรียต-ไต้ฝุ่นเกย์" เทียบกับ "พายุปาบึก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เนื่องจากอิทธิพลของ "พายุโซนร้อนปาบึก" ที่มีเส้นทางลงสู่อ่าวไทยและมุ่งหน้าขึ้นฝั่งภาคใต้ของประเทศไทย ทำให้หลายฝ่ายต่างเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น ตามแนวเส้นทางของพายุปาบึกที่จะพาดผ่าน โดยเฉพาะบริเวณ จ.ชุมพร, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี รวมทั้งพื้นที่ เกาะสมุย และ เกาะพะงัน

ทั้งนี้ก็เพื่อรับสถานการณ์ไม่ให้ซ้ำรอยเช่นในอดีต ยังคงมีประวัติศาสตร์และบทเรียนครั้งก่อนที่จะยังเป็นที่จดจำมาถึงคนรุ่นหลัง มีการตั้งข้อสังเกตว่าเส้นทางของพายุโซนร้อนปาบึกในครั้งนี้นั้น มีทิศทางการเคลื่อนที่ค่อนข้างคล้ายกับพายุที่เคยขึ้นชายฝั่งอ่าวไทย อย่าง "พายุโซนร้อนแฮเรียต" หรือ "พายุไต้ฝุ่นเกย์" เมื่อหลายปีก่อน

"พายุโซนร้อนแฮเรียต" เริ่มก่อตัวขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2505 จากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง นอกชายฝั่งทะเลใกล้กับฟิลิปปินส์ ค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าทางทิศตะวันตกและมีทีท่าว่าจะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ

แต่ปรากฏว่าพายุได้พัฒนากลายเป็นพายุดีเปรสชั่น ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ขณะที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านแหลมญวน ประเทศเวียดนามตอนใต้ ความเร็วลมเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งพัฒนากลายเป็นพายุโซนร้อน เมื่อพายุได้เคลื่อนตัวลงสู่อ่าวไทย ทำให้ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า "พายุโซนร้อนแฮเรียต"

news01-1แนวเส้นทางพายุโซนร้อนแฮเรียต เมื่อปี พ.ศ. 2505

จากแนวเส้นทางพายุโซนร้อนแฮเรียต เดิมมีการคาดการณ์ว่าจะขึ้นฝั่งในพื้นที่ จ.สงขลา แต่ปรากฏว่าในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 พายุได้เปลี่ยนทิศทางเบนขึ้นทิศเหนือเล็กน้อย ทำให้ช่วงค่ำวันเดียวกันนั้น พายุโซนร้อนแฮเรียต ได้พัดขึ้นฝั่งบริเวณแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง ด้วยกำลังความเร็วลมสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุโซนร้อนแฮเรียตทำการเกิดพลังการทำลายจากกระแสลมแรง อีกทั้งยังทำให้เกิดปรากฏการณ์คลื่นทะเลยกตัวขึ้นสูง หรือ สตอร์มเซิร์จ ซัดเข้าสู่ชายฝั่ง ทำให้พายุลูกนี้คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 935 คน หมู่บ้านถูกกลืนหาย ยังกลายเป็นตำนานเรื่องเล่าที่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ณ บ้านแหลมตะลุมพุก มาจนถึงทุกวันนี้

ภายหลังจากพายุโซนร้อนแฮเรียตได้ขึ้นชายฝั่งทะเลฝั่งอ่าวไทยไปแล้ว ยังสร้างความเสียหายให้กับจังหวัดใกล้เคียง ก่อนที่พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น แล้วเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามัน อิทธพลของพายุโซนร้อนแฮเรียต หลังจากอ่อนกำลังลงยังพัดออกไปสู่อ่าวเบงกอล และเลี้ยวไปขึ้นฝั่งประเทศบังกลาเทศ ก่อนจะสลายตัวไปในที่สุด

"พายุไต้ฝุ่นเกย์" เป็นพายุรุนแรงอีกลูกที่สร้างความเสียหายและถูกจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ภัยพิบัติของประเทศไทย และยังเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกเลวร้ายที่สุดของคาบสมุทรมลายูรอบ 35 ปี ในขณะนั้น พายุลูกนี้ได้ความเสียหายอย่างหนักให้กับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ ชุมพร

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้ก่อตัวขึ้นบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ก่อนจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และพัฒนากลายเป็นพายุโซนร้อน พร้อมกับได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "พายุเกย์"

news01-2แนวเส้นทางพายุไต้ฝุ่นเกย์ เมื่อปี พ.ศ. 2532

ต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 พายุได้เพิ่มกำลังความเร็วลมและกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 พัดอยู่ใจกลางอ่าวไทย ก่อนที่เช้าวันต่อมา (4 พ.ย.) พายุไต้ฝุ่นเกย์ได้พัดขึ้นชายฝั่ง บริเวณช่วงรอยต่อ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ ชุมพร ด้วยกำลังความเร็วลมถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจัดเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 3

อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเกย์ ทำให้ผู้เสียชีวิตถึง 537 คน สร้างความเสียหายให้กับ อ.เมือง, อ.บางสะพานน้อย, อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ท่าแซะ, อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซ้ำยังทำเรือขุดเจาะน้ำมันอับปางลงนอกชายฝั่งอ่าวไทย

พายุไต้ฝุ่นเกย์ กลายเป็นพายุลูกเดียวในประวัติศาสตร์ที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งประเทศไทย ด้วยความเร็วลมระดับพายุไต้ฝุ่น โดยหลังจากนั้นพายุลูกนี้ยังได้พัดข้ามอ่าวเบงกอล กลายเป็นพายุโซโคลนระดับ 5 ขึ้นถล่มชายฝั่งประเทศอินเดีย ก่อนจะสลายตัวไปบริเวณเทือกเขากัตส์ทางตะวันตกของอินเดีย

ทั้งนี้ เส้นทางของพายุไต้ฝุ่นเกย์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพายุก่อตัวขึ้นในอ่าวไทย ซึ่งเป็นเพียงอ่าวทะเลเล็กๆ ก่อนจะสะสมพลังงานและพัฒนากลายเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับที่น่าเกรงขาม ผิดวิสัยปกติของก่อกำเนิดพายุหมุนเขตร้อนในภูมิภาคนี้

news01-3ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม พยากรณ์เส้่นทางพายุโซนร้อนปาบึก

อย่างไรก็ตาม จากเส้นทางของพายุรุนแรงทั้ง 2 ลูกในอดีตที่เคยพัดผ่านประเทศไทย ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่นำมาปรับใช้และปรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับเส้นทางของ "พายุโซนร้อนปาบึก" นั้น ทางศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมของสหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์ว่าพายุปาบึกจะเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทิศเหนือ อาจจะขึ้นชายฝั่งระหว่าง จ.สุราษฎร์ธานี กับ เกาะสมุย ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

โดยหลังจากนั้นพายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามัน โดยจะค่อยๆ อ่อนกำลังลงและไปสลายกตัวบริเวณอ่างเบงกอลตอนบน ทางกรมอุตุนิยมวิทยาของไทยได้คาดการณ์ความเร็วลมของพายุปาบึก ขณะฝั่งเข้าสู่ชายฝั่ง อาจจะใกล้เคียงกับกรณีของพายุโซนร้อนแฮเรียต ประมาณ 85-95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

>> กรมอุตุฯ เผย “พายุปาบึก” แรงเท่า “พายุแฮเรียต” ที่เคยถล่มแหลมตะลุมพุก 57 ปีก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook