แม่สุดช้ำ ลูกสาววัย 12 ปี ถูก "ครูพละ" ข่มขืน พยายามไกล่เกลี่ยอ้างแค่ช่วยตัวเอง

พ่อแม่พาลูกสาววัย 12 ปี เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม หลังถูกครูพละข่มขืนถึง 2 ครั้ง แต่คดีไม่คืบ ซ้ำยังปล่อยข่าวว่าเด็กตั้งใจจะจับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.เอ (นามสกุล) อายุ 29 ปี และ นายบี (นามสกุล) อายุ 31 ปีพ่อและแม่ของ ด.ญ.ซี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดชัยนาท เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังคดีที่ลูกสาวถูก นายดำรงค์ อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาพลศึกษา ข่มขืนตั้งแต่เดือนตุลาคม แล้วคดีไม่คืบหน้า

ทางผู้สื่อข่าวจึงพาครอบครัวผู้เสียหายไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อให้จัดการเร่งรัดดำเนินคดีเพราะทางครอบครัวกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีนางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เป็นผู้รับเรื่องด้วยตนเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากครูพละคนดังกล่าวบอกว่าจะพาเด็กไปทำบัตรนักกีฬา แต่ก็ไม่ได้ไปทำ พาไปทำการข่มขืนบนรถที่ข้างทาง ส่วนครั้งที่ 2 ทำทีหลอกล่อเด็ก ว่าจะไปคุยกับพ่อแม่ แต่ก็ลงมือทำการข่มขืนอีกครั้ง

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ทางครูได้พยายามติดต่อผ่านข้อความเฟซบุ๊ก ทำนองเตรียมการกับเด็กไม่อยากให้เป็นเรื่อง กังวลว่าจะมีคราบเลือดติดที่กางเกงใน  และโน้มน้าวให้เด็กพูดว่าไม่มีอะไรกัน ครูสำเร็จด้วยตัวเองแล้วเอากางเกงมาเช็ดจึงเป็นคราบอสุจิ

น.ส.เอ แม่ของเด็กหญิงซี เปิดเผยว่า เหตุเกิดครั้งแรก 26 ก.ย. มาแจ้งความเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ครูกระทำกับเด็กโดยดึงขึ้นรถบังคับไปข่มขืน ไม่เข้าใจว่าโรงเรียนปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะเหตุการณ์ครั้งที่ 1 ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว

แต่ก็มีเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นอีก ในวันที่ 29 พ.ย. และได้เข้าแจ้งความอีกครั้งเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.  ได้ข่าวมาว่าครั้งที่ 1 เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบครูแล้วครูจะต้องย้ายไปที่อื่นซึ่งไม่มีการทำแบบนั้น ครูยังไปสอนในโรงเรียนตามปกติ จนมากระทำกับเด็กครั้งที่ 2อี ก

สาเหตุที่ผู้ปกครองทราบเนื่องจากเด็กไปเล่าให้ฟังพี่ที่บ้านอัดคลิปแล้วส่งมาให้ฟัง และบอกว่าอย่างไรต้องบอกพ่อแม่  เพราะครูจะทำกับเด็กอย่างนี้ไม่ได้  ตอนแรกเด็กกลัวว่าพ่อแม่จะตี  พอเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เด็กมีอาการปวดหัวเหมือนเครียดในโรงเรียน แล้วไปขอยาในห้องพยาบาลกิน 

ครูในห้องพยาบาลได้ถามเด็กว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วได้พาเด็กไปสาบานต่อหน้าพระแล้วเล่าให้รองผู้อำนวยการของโรงเรียนฟัง  แล้วพยายามติดต่อมาจึงทราบเรื่องว่าเกิดเหตุครั้งที่ 2 ขึ้นกับลูก  ทางโรงเรียนยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนครู และยังมาสอนตามปกติ และไม่มีการติดต่อมาจากทางโรงเรียน ว่าเกิดอะไรขึ้นสภาพจิตใจของผู้ปกครองและเด็ก แต่กลับไปปล่อยข่าวว่าเด็กเป็นใจให้ครู เด็กชอบครู จะจับ และผู้ปกครองอยากได้เงินจากครูที่เป็นผู้กระทำสอนวิชาพลศึกษา

ด้าน นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอวัดสิงห์ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กคนดังกล่าว ทางอำเภอไม่นิ่งนอนใจ พอทราบข่าวก็ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลวัดสิงห์ จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื่องจากเป็นโรงเรียนในสังกัด พร้อมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ เร่งดำเนินคดีเพราะครูคนนี้ก่อเหตุถึง 2 ครั้ง ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอผลตรวจสอบร่างกายของเด็กที่ รพ.วัดสิงห์ เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดี ตามกฎหมาย

ส่วนเรื่องความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กและครอบครัวนั้น ทางการไม่สามารถย้ายครูออกนอกพื้นที่ได้ เพราะครูอยู่ในสังกัดของท้องถิ่น แต่ตอนนี้ทางเทศบาลได้มีคำสั่งให้ครูมาประจำการที่เทศบาลก่อน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและต้องรอให้การดำเนินคดีสิ้นสุดก่อน ถ้าผลคดีสรุปว่ายังไงจะดำเนินการทางข้อกฎหมายทันที

สำหรับผู้ปกครองได้มีการเรียกมาพูดคุยที่อำเภอ 2 ครั้ง ซึ่งทางอำเภอได้นัดหมาย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดชัยนาท เพราะไม่อยากให้ผู้ปกครองรู้สึกว่ากำลังต่อสู้อยู่คนเดียวและไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าไม่พึงพอใจตรงไหนให้มาหาทางอำเภอได้ตลอดเวลา รวมไปถึงการกำชับทางโรงเรียนดูแลน้องที่ได้รับความเสียหายอย่างดีทั้งทางจิตใจและทางอารมณ์ ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือครูออกหน้าออกตา ผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูก