สาวใหญ่เหยื่อสวิงกิ้งแก้เคล็ด เผยสาเหตุเลื่อมใส "ร่างทรง" ถึงขั้นยกบ้านให้เป็นตำหนักทรง

สาวใหญ่เหยื่อสวิงกิ้งแก้เคล็ด เผยสาเหตุเลื่อมใส "ร่างทรง" ถึงขั้นยกบ้านให้เป็นตำหนักทรง

สาวใหญ่เหยื่อสวิงกิ้งแก้เคล็ด เผยสาเหตุเลื่อมใส "ร่างทรง" ถึงขั้นยกบ้านให้เป็นตำหนักทรง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวใหญ่ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมกรณีร่างทรงนารายณ์อวตาร หลอกทำพิธีแก้กรรมให้แม่ที่ป่วยหนักโดยการพาไปร่วมเซ็กซ์หมู่ 4 ต่อ ด้านร่างทรงขอเลื่อนนัดหมายเรียกรอบแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 ม.ค.) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์  นางบี (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี สาวใหญ่นักธุรกิจ เข้าพบ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อยื่นหลักฐานเพิ่มเติมกรณี ถูกร่างทรงชายอายุ 51 ปี พร้อมพวก รวม 4 คน ลวงเข้าโรงแรมดัง กลางเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อทำพิธีแก้กรรมให้แม่หายป่วย แต่กลับถูกรุมทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ จัดเซ็กซ์หมู่ หญิง 4 ชาย 1 แบบพิสดาร

นางบี เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2561 เป็นช่วงที่ตัวเองและสามีชาวต่างชาติเดินทางกลับจากประเทศนอร์เวย์ เพื่อมาเยี่ยมแม่ที่ป่วย ที่ จ.อุตรดิตถ์ ทำให้นึกถึงร่างทรงนารายณ์อวตาร อายุประมาณ 52 ปี ที่เคารพนับถือและรู้จักมากว่า 8 ปี ปัจจุบันมีตำหนักอยู่ที่ จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้นำเรื่องอาการป่วยของพ่อแม่ไปปรึกษา จึงมีการนัดหมายทำพิธีแก้กรรม เพื่อหวังให้อาการท่านดีขึ้น

ตอนแรกจะประกอบพิธีที่บ้านพ่อและแม่ แต่ร่างทรงอ้างไม่สะดวก จึงนัดพบและเปิดห้องชั้น 6 ที่โรงแรมดังกลางเมืองอุตรดิตถ์ ถึงเวลานัดหมาย ภายในห้องร่างทรงชาย 1 คน มาพร้อมภรรยา 1 คน และหญิงอีก 2 คนที่อ้างว่าเป็นเหล่าบริวาร หรือ แม่ย่าบายศรี

โดยร่างทรงบอกว่า ตนกำลังมีเคราะห์หนัก ต้องทำพิธีแก้กรรมให้แม่ที่ป่วย มิฉะนั้นแม่อาจเสียชีวิตได้ ต่อจากนั้นร่างทรงเข้าห้องน้ำถอดเสื้อผ้ายืนรอ และให้หญิง 3 คนที่เป็นเหล่าบริวารต่างกระทำแบบเดียวกับร่างทรง และพูดหว่านล้อมให้ตนแก้ผ้าเพื่อประกอบพิธีแก้กรรม เมื่อตนหลงเชื่อกลับให้ร่วมจัดเซ็กซ์หมู่ หญิง 4 ชาย 1 โดยบอกเพื่อแก้เคล็ดให้แม่หายป่วย

ตนเองได้รู้จักกับกลุ่มร่างทรงที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพราะก่อนหน้านั้นชีวิตล้มเหลวมาตลอด พอได้ปรึกษาและรับคำแนะนำจากร่างทรงคนดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันชีวิตด้านธุรกิจดีขึ้นตามลำดับ จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ในร่างทรงนารายณ์อวตาร ที่สวรรค์ส่งให้มาช่วยเหลือประชาชน โดยยอมยกบ้าน ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ให้ตั้งเป็นตำหนักของร่างทรง มากว่า 8 ปีแล้ว

ประกอบกับตนมีธุรกิจต้องเดินทางไป-กลับต่างประเทศ จึงไม่ได้รู้ถึงพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนได้นำเรื่องร้องเรียนแอดมินเพจบิ๊กเกรียน และนำมาซึ่งการเข้าแจ้งความต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อเอาผิดร่างทรงพร้อมพวกเพื่อจะได้ไม่ให้มีการหลอกหลวงคนอื่นต่อไปอีก

พ.ต.อ.ดิษยเดช กล่าวว่า สำหรับคดีร่างทรงนารายณ์อวตาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุตรดิตถ์ได้ออกหมายเรียกตัวกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปแล้ว เพื่อที่จะให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ (3 ต.ค.) แต่เมื่อวานนี้ พ.ต.ท.พรวน คร้ามสมอ พนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งให้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหานั้นไม่มาพบ และแจ้งเลื่อนไปประมาณปลายเดือนม.ค.นี้ ในลักษณะอย่างนี้อาจจะเป็นการประวิงเวลาหรือไม่ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สองไปแล้ว หากทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนเป็นครั้งที่สองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะขออนุมัติหมายศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป

>> พิธีบัดสี นักธุรกิจสาวใหญ่แจ้งจับ "ร่างทรง" หลอกไปสวิงกิ้งแก้เคล็ด ชาย 1 หญิง 4

>> ฟังอีกมุม "ร่างทรงปู่น้อง" โต้จับสาวใหญ่สวิงกิ้ง ยันมี 2 เมียพอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook