เร็วกว่าได้เปรียบ หนุ่มจีนชิงแจ้งความตัดหน้าอ้างถูกฉกกระเป๋า ที่แท้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
![เร็วกว่าได้เปรียบ หนุ่มจีนชิงแจ้งความตัดหน้าอ้างถูกฉกกระเป๋า ที่แท้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1526/7632454/13.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
หนุ่มจีนโร่แจ้งความอ้างถูกคู่รักแปลกหน้าลักกระเป๋า ที่แท้โดนเพื่อนยึดเพราะหลอกพาไปเที่ยว จนโดนชาร์จเงิน 10 เท่า
เมื่อเวลา 17.00 น. (4 ม.ค.) พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา Mr.Jihong Mao อายุ 26 ปี สัญชาติจีน ในความผิดข้อหา "แจ้งความเท็จ "
สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหา ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยาว่า ถูกลักกระเป๋าสะพาย ภายในมีทรัพย์สินเงินสดจำนวนมาก โดยจากการสอบปากคำทราบว่า วันที่ 31 ธ.ค.61 ผู้ต้องหา ได้พบกับสองหนุ่มสาวชาวจีน ซึ่งเป็นแฟนกัน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและชักชวนกันมาเที่ยว และพักอาศัยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนพัทยาสายสอง
ต่อมาวันที่ 2 ม.ค.62 ผู้ต้องหาและเพื่อนได้ออกมาเที่ยวที่ชายหาดพัทยา โดยผู้ต้องหาได้นำกระเป๋าสะพาย ยี่ห้อ Gucci สีม่วง ภายในมีทรัพย์สินคือเงินสด 20,000 ดอลลาร์ เงินสด 10,000 หยวน และเงินสด 70,000 บาท ขณะผู้ต้องหาได้ลงไปเล่นน้ำทะเล ได้ฝากกระเป๋าใบดังกล่าวไว้กับเพื่อนสองหนุ่มสาวชาวจีน แล้วลืมขอกระเป๋าคืน
จนกระทั่งผ่านไปวันที่ 3 ม.ค.62 ผู้ต้องหานึกขึ้นได้ จึงไปหาชายหญิงชาวจีนที่ห้องพักแต่ปรากฏว่าทั้งสองคนได้หนีออกจากโรงแรมไปแล้ว และไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ อีกทั้งยังพบว่าหนังสือเดินทางของตนได้หายไปจากห้องพักด้วยเช่นกัน จึงรีบมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สอบถามพนักงานโรงแรมที่กลุ่มผู้ต้องหาและเพื่อนเข้าพัก ทราบว่าชายหญิงชาวจีนคู่ดังกล่าวนั้นชื่อว่า Mr.Liang Yaxi อายุ 27 ปี และ Ms.Li Yiying อายุ 25 ปี และสืบทราบว่าบุคคลทั้งสองได้ย้ายไปพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแอดมาย พรีเมียร์สวีท ซอยพัทยากลาง 12 จึงเดินทางไปเชิญบุคคลทั้งสองพร้อมทำการสอบปากคำ
จากการสอบปากคำโดยละเอียด คู่รักชายหญิงและผู้แจ้ง ได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พวกตนนั้นรู้จักกันมาก่อนโดยเป็นเพื่อนกัน แต่วันเกิดเหตุพวกตนมีปัญหาทะเลาะกัน จึงแยกย้ายกันอยู่คนละโรงแรม
โดยคู่ชายหญิงได้เก็บหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาไว้ เนื่องจากตนเองนั้นถูกหลอกพาไปเที่ยวและถูกชาร์จเงินเป็น 10 เท่า จึงเก็บหนังสือเดินทางผู้ต้องหาไว้เพื่อไปแจ้งความ แต่กลับถูกผู้ต้องหาสร้างเรื่องขึ้นมาแล้วไปแจ้งร้องทุกข์กับตำรวจดังกล่าว
เบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องแจ้งความเท็จเนื่องจากต้องการให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อตำรวจจะได้สนใจในคดีและเร่งรีบติดตามคดีให้กับตนเอง อย่างไรก็ตาม การแจ้งความเท็จเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่เมืองพัทยาและประเทศไทย จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป