คนสุราษฎร์ฯ อุ่นใจขึ้น "พายุปาบึก" พัดผ่านไปแล้ว เริ่มทยอยกลับเข้าบ้าน

สถานการณ์ฝนที่สุราษฎร์ธานี ค่อนข้างดีขึ้น หลังฝนทิ้งช่วงนานหลายชั่วโมง คนในพื้นที่เบาใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องเฝ้าระวังมวลน้ำจากเทือกเขาหลวงที่อาจจะไหลเข้าพื้นที่ซ้ำได้

(5 ม.ค.) สภาพอากาศในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ท้องฟ้ายังมืดครึ้มทั่วบริเวณ แต่ไม่มีฝนตกแล้ว โดยฝนได้ทิ้งช่วงไปตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา หลังจาก "พายุปาบึก" ได้พัดผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปยัง จ.กระบี่ และเตรียมลงสู่ทะเลอันดามัน

ล่าสุดหลายภาคส่วนเริ่มรู้สึกเบาใจไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังมวลน้ำฝนที่ตกหนักบนเทือกเขาหลวง ที่อาจจะสะสมตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งวัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยได้กว่า 100 มิลลิเมตรในหลายจุด บางจุดสูงถึง 200 มิลลิเมตร เช่น ศูนย์ปากฮาย วัดปริมาณน้ำฝนได้ 223 มิลลิเมตร แต่น้ำที่ล้นตลิ่งในที่ลุ่มบางจุดของ ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ ได้ลดลงสู่ภาวะปกติ ทางเจ้าหน้าที่จะได้สำรวจความเสียหายจากพายุปาบึกอีกครั้ง

ซึ่งจากฝนที่ตกหนักบนเทือกเขาหลวง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่และประชาชนยังต้องเฝ้าระวังไปอีกระยะ ประเมินปริมาณน้ำที่จะไหลจากพื้นที่สูงลงสู่ที่ต่ำในอำเภอดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาสาร อ.เวียงสระ นอกจากนั้นในพื้นที่ฝนตกหนักช่วงคืนที่ผ่านมา รวมถึงฝนที่อาจจะตกเพิ่มในวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ได้มีการเตรียมรับมือไว้ทุกพื้นที่แล้ว

สำหรับพื้นที่ อำเภอดอนสัก ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง จนชาวบ้านต้องอพยพออกจากพื้นที่นั้น ในช่วงเช้าวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ทยอยกลับบ้านเรือนแล้ว หลังพายุขึ้นฝั่งและผ่านไปแล้ว แต่สภาพในทะเลยังมีคลื่นสูง แต่ลดระดับลงจากเมื่อวานเล็กน้อย จากการตรวจสอบชุมชนเกาะแรดไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด

กรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แจ้งผลการตรวจสอบเรดาร์ตรวจอากาศต่อ ปภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังพบกลุ่มฝนปกคลุมพื้นที่สุราษฎร์ธานีบางส่วน แต่ไม่หนาแน่นครอบคลุมทั้งจังหวัดเหมือนเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังคาดการณ์ว่าจะมีฝนกระจายร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักในบางแห่ง ส่วนคลื่นลมทะเลยังคงสูงเรือเล็กควรหยุดติดตามสถานการณ์อีก 1 วัน