เจ้าของน้ำตาตกใน หนีพายุปาบึก พอกลับมาดูบ้าน โดนน้ำพัดหายไปทั้งหลัง

เจ้าของน้ำตาตกใน หนีพายุปาบึก พอกลับมาดูบ้าน โดนน้ำพัดหายไปทั้งหลัง

เจ้าของน้ำตาตกใน หนีพายุปาบึก พอกลับมาดูบ้าน โดนน้ำพัดหายไปทั้งหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าของที่สุราษฎร์ธานีคอตก กลับจากหลบภัยพายุปาบึก หาบ้านไม่เจอ น้ำซัดหายไปทั้งหลัง เจ้าหน้าเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือ ขณะที่ประชาชนติดอยู่ภายใน 8 ครัว เนื่องจากถนนถูกน้ำซัดกลายเป็นคลอง

(6 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หลังบ้านดังกล่าวถูกน้ำป่าไหลหลากซัดหายจนไม่เหลือร่องรอย มีแค่ฐานของบ้านที่จมอยู่ในคลอง ซึ่งต้องเดินเท้ากว่า 400 เมตร เพราะถนนเดินถูกน้ำป่าซัดจนกลายเป็นคลอง

นายสุวิทย์ เจ้าของบ้าน บอกว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ครึ่งปูนชั้นเดียว หน้ากว้าง 6 เมตร ยาว 10 เมตร ซึ่งปกติอยู่ด้วยกันกับภรรยา 2 คน วันที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน เพราะหลังจากมีประกาศเตือนจากทางจังหวัด ให้หลบภัย พายุปาบึก ก็ได้หนีภัยไปอยู่บ้านพ่อในอำเภอสิชล เมื่อลมสงบก็ได้กลับมาดู ก็พบบ้านไม่อยู่แล้ว จึงอยากให้ทางการให้การช่วยเหลือ เพราะราคาปาล์มน้ำมันไม่สูงอย่างที่ควรจะเป็น

นายบุญส่ง จัทรภัคดี ผู้ใหญ่ ม.10 บ้านปากฮาย บอกว่าในช่วงคืนที่เกิดเหตุปาบึกขึ้นฝั่งสามารถวัดปริมาณน้ำฝน 24 ชม.ได้สูงถึง 223 มิลลิเมตร ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลหลากไปยังบ้านปากคู ของตำบลคลองสระจนเกิดน้ำท่วมขัง

โดยในขณะนี้มวลน้ำในคลองปากฮายลดระดับสู่ภาวะปกติ แต่ยังต้องเฝ้าระวังมวลน้ำทางด้านที่สูงจากอำเภอนบพิตำ ที่ตกหนักเช่นกันซึ่งน้ำจะไหลมาที่นี่ ขณะนี้มีบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยงประมาณ 20 ครัว อพยพมาไว้ที่ศูนย์อพยพศาลาหมู่บ้านแล้ว 6 ครัวประมาณ 10 บางส่วนไปอยู่บ้านญาติ ในที่ปลอดภัย แต่ยังมีอีก 4 หลังที่จังขอติดตามสถานการณ์ก่อน

ทางด้าน นายธรรมรงค์ มณีโชติ นายก อบต.คลองสระบอกว่ารอบนี้เสียหายไม่มาก มีบ้านเสียหานทั้งหลังหนึ่งหลัง บางส่วนหนึ่งหลัง ซึ่งหลังจากนี้ต้องมีการพิสูจน์ว่ามีบ้านอยู่จริงและให้ผู้ใหญ่บ้านรับรองเนื่องจากไม่มีร่องรอยของบ้านเหลือไว้ นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านอีก 8 หลังที่ได้รับผลกระทบจากการสัญจร ถนนเข้าบ้านถูกน้ำซักจนกลายเป็นคลอง หลังจากนี้จะได้ประสานอำเภอและจังหวัด รวมถึงหน่วยงานภายนอกร่วมให้การช่วยเหลือชาวบ้าน

ทางด้าน ปภ.จังหวัด ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2562 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย วาตภัย และคลื่นลมแรง จำนวน 11 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ไชยา, ท่าชนะ, ดอนสัก, พะงัน, บ้านนาเดิม, พุนพิน, เกาะสมุย, อำเภอเมือง, บ้านนาสารพระแสง, และ กาญจนดิษฐ์ รวม 48 ตำบล 260 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 3,791 ครัวเรือน 11,013 คน ส่วนความเสียหายเพิ่มเติมอยู่ระหว่างสำรวจ

ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน หลายพื้นที่ตอนบนติดภูเขาระดับน้ำลดลงปกติ แต่ยังมีพื้นที่ราบลุ่มปลายน้ำก่อนออกทะเล ที่ยังได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ไหลเข้าท่วมพื้นที่เนื่อง สำหรับสภาพอากาศในช่วงเช้า ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มเกือบครอบคลุมทั้งจังหวัด บางจุดมีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย ทุกภาคส่วนยังช่วยชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง บรรเทาทุกข์จากภัยพายุปาบึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook