ตำรวจไม่รู้ครูพละยัดเหยื่อข่มขืน 2 แสน บอกรับเงินไว้ก็ได้ แต่คดีอาญายอมความไม่ได้

ตำรวจไม่รู้ครูพละยัดเหยื่อข่มขืน 2 แสน บอกรับเงินไว้ก็ได้ แต่คดีอาญายอมความไม่ได้

ตำรวจไม่รู้ครูพละยัดเหยื่อข่มขืน 2 แสน บอกรับเงินไว้ก็ได้ แต่คดีอาญายอมความไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพ่อและแม่ของ เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 จ.ชัยนาท ร้องสื่อที่ศูนย์ดำรงธรรมหลังคดีที่ลูกสาวถูก นายดำรงค์ หรือ ครูบอล อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษา ข่มขืนกระทำชำเรา เข้าแจ้งความช่วงเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา โดยแยกเป็น 2 คดี เพราะต่างกรรมต่างวาระ โดยคดีแรกคือเดือนตุลาคม ส่วนคดีที่สองช่วงเดือนพฤษจิกายน 2561 ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องศาลตามกระบวนการยุติธรรมนั้น

>> แม่สุดช้ำ ลูกสาววัย 12 ปี ถูก "ครูพละ" ข่มขืน พยายามไกล่เกลี่ยอ้างแค่ช่วยตัวเอง

>> เพื่อนครูแฉซ้ำ! ครูพละข่มขืนเด็ก 12 ไม่ใช่คนแรก เจ้าชู้-หื่นขยำเต้าลูกศิษย์

>> แม่ยืนยันไม่รับเงิน ครูพละข่มขืนลูก แล้วยื่น 2 แสนให้ หวังจบเรื่อง

ล่าสุดเวลา 14.00 น. (7 ม.ค. 2561) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เพื่อพบพ.ต.อ.เชษชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.วัดสิงห์ หลังจากที่มีเรื่องของการที่ ทางผู้ต้องหา ได้ให้คนมาหว่านล้อมไกล่เกลี่ย ให้เงินจำนวน 200,000 บาท พร้อมจะดูแลเรื่องการศึกษาเล่าเรียนของ เด็กหญิงเอ ไปจนจบนั้น

พ.ต.อ.เชษชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.วัดสิงห์ เปิดเผยว่า เรื่องการเจรจาไกล่เกลี่ยเงิน จำนวน 200,000 บาท โดยเสนอให้แก่ครอบครัวผู้เสียหายเพื่อให้เรื่องจบ ตามที่มีการเสนอข่าวไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับเรื่องเกี่ยวกับกรณีนี้ เรื่องการเข้าเจรจากันของทั้งสองฝ่าย ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนแต่อย่างใด ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม เรื่องเงิน 200,000 บาท ไม่มีผลต่อรูปคดี เป็นคนละส่วนกัน เพราะเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา ไม่สามารถยอมความกันได้

แต่เรื่องเงินนั้น ทางครอบครัวจะรับหรือไม่รับก็ไม่เป็นผลอะไรทั้งสิ้นกับรูปคดี ทางเจ้าหน้าที่ทำการดูแลอย่างใกล้ชิดเรื่องคดีนี้เพราะเป็นคดีที่คนให้ความสนใจ หากส่อทุจริตหรือเอาเงินมาเสนอเจ้าหน้าที่ ก็เข้าข่ายติดสินบนเจ้าพนักงานอีกกระทงด้วย ณ ตอนนี้ขอยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าข้างใคร ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมไม่เกี่ยวว่าผู้ต้องหาเป็นข้าราชการ ทุกอย่างจะอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล​

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook