พ่อถึงกับอึ้ง! ลูกชาย 3 ขวบ เหยียบตะปูหน้าอาคารผู้โดยสาร สนามบินยังเก็บค่าทำแผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ken Wuttipong โพสต์ภาพอาการบาดเจ็บของลูกชายที่ถูกตะปูแทงรองเท้าจนทะลุถึงฝ่าเท้าและมีเลือดออก พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมาว่า ตนได้พาลูกสาววัย 5 ขวบ และลูกชายวัย 3 ขวบ ไปรับภรรยาที่สนามบิน แต่หลังจากเจอภรรยาและพากันเดินออกจากสนามบิน คุณแม่อุ้มลูกสาวและคุณพ่อจูงลูกชายเดินข้ามทางม้าลายเพื่อไปยังลานจอดรถ
จู่ๆ ลูกชายก็ร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนแรกคิดว่าชาวต่างชาติที่เดินสวนกันอาจจะเหยียบเท้าลูกชาย แต่เมื่อถอดรองเท้าลูกออกดูปรากฏว่าเจอตะปูแทงทะลุรองเท้าของลูก จนเลือดออกเต็มไปหมด ตนรีบนำน้ำสะอาดและน้ำเกลือล้างเท้าลูก จากนั้นเดินไปแจ้ง รปภ. ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยได้รับคำแนะนำว่าให้ไปทำแผลเบื้องต้นที่ห้องพยาบาลของสนามบินก่อน
ทั้งนี้ หลังจากนำตะปูให้ รปภ.ดู ก็บอกว่าสงสัยช่างเก็บอุปกรณ์ไม่หมด แต่หลังจากที่ขอรองเท้าและตะปูไปถ่ายรูปกลับมา คุณพ่อรายนี้ได้ถามย้ำอีกครั้ง กลับได้รับคำตอบว่าอาจจะมีรถช่างขับผ่านแล้วทำตะปูหล่น และด้วยเพราะอยากไปดูอาการของลูกจึงไม่ได้คาดคั้นต่อ เมื่อไปถึงห้องพยาบาลหลังลูกชายทำแผลเสร็จตนก็จะรีบพาลูกไปโรงพยาบาล แต่ต้องอึ้งไปเมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีค่าทำแผล 100 บาท
คุณพ่อรายนี้ระบุว่า ตอนนั้นยอมรับเลยว่าตนโกรธมากเลยต่อว่าไป ว่าตนมาใช้บริการของการท่าอากาศยาน ลูกชายประสบเหตุก็เพราะความสะเพร่าของการท่า ที่มีตะปูอยู่บนทางม้าลาย แล้วยังต้องจ่ายเงินค่าทำแผลด้วยหรือ ทางพยาบาลก็แจ้งว่าปกติก็ไม่เก็บ แต่เพิ่งเปลี่ยนนโยบายให้เก็บตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา แล้วทางพยาบาลก็ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายก่อนที่จะทำแผล
"อยากทราบว่านโยบายของการท่าอากาศยาน คือะไรครับ ต่อให้เกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ คุณก็จะคิดค่าใช้จ่ายเหรอครับ ภาษีสนามบินที่คุณเก็บทุกๆ ครั้งเนี่ย ไม่ครอบคลุมถึงความปลอดภัยของคนมาใช้บริการของการท่าเหรอครับ แล้วการท่าคิดจะรับผิดชอบอะไรบ้างไหมครับ อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ใช้บริการสนามบินต่างๆ ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ"
ซึ่งหลังโพสต์ถูกแชร์ออกไป ก็ได้มีผู้มาให้ข้อมูลว่าตะปูที่ตำเท้าเด็กชายคือ สกรูเกลียวปล่อย ที่ช่วงปลายคล้ายสว่านมีความแหลมคมมาก