“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นปัดการเมือง-แถลงจับนายทุนเงินกู้ภาคอีสานยึดทรัพย์-เงินสดกว่า 1,600 ล้าน
( 8 ม.ค. 62 ) ที่หอประชุมชัยจินดา ตำรวจภูธรจังหวัด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นครราชสีมา, พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.สุรินทร์, พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ , นายกฤษฎา แก้วสองเมือง รองผู้ว่าราชการจ.บุรีรัมย์
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยทหารในพื้นที่ แถลงข่าวการดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 24 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 4 จังหวัด มี จ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์ และ จ.ขอนแก่น
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 7 รายในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” ประกอบด้วย นางสุภาภรณ์ , น.ส.พรรณวิภา , นายวิวัฒน์ , นางเมธี, น.ส.ศิริอร , นายพรชัย และ น.ส.ผาวรินทร์
ตรวจยึดและอายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหามูลค่า 130 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์ และตึกแถว จำนวน 9 คูหา, บ้านพร้อมที่ดินจำนวน 3 หลัง, เงินสด 900,000 บาท, ที่ดินเนื้อที่ 300 ไร่, รีสอร์ท 27 หลัง, รถยนต์กระบะ 3 คัน, ตรวจยึดโฉนดที่ดิน 774 ฉบับ เนื้อที่รวม 1,506 ไร่ 2 งาน 87 ตารางวา รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดและอายัดในครั้งนี้ทั้งสิ้น 1,634.5 ล้านบาท
โดยในส่วนของ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าทำการตรวจค้นในพื้นที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ 4 จุด, อ.นางรอง 6 จุด, อ.โนนดินแดง 2 จุด และ อ.กระสัง 1 จุด ผลการตรวจค้นสามารถยึด/อายัดทรัพย์สินมูลค่า 40 ล้านบาท ยึดโฉนดที่ดินจำนวน 271 ฉบับ จำนวนเนื้อที่ 580 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 542 ล้านบาท
และจับกุมผู้ต้องหา 4 รายในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า การดำเนินการจับกุมกลุ่มนายทุนในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองและไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เป็นการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม
หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งขณะที่มีการแถลงข่าวได้มีประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือ มามอบดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้การช่วยเหลือด้วย