เมียหลวงแค้นสุมอก ลั่นไกสังหารเมียน้อยดับ-ผัวสาหัส นั่งกินเบียร์รอตำรวจมาจับ
(9 ม.ค.) เวลา 18.45 น เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งไปรับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงวัย 40 ปี 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตรกระสุนเข้าที่ท้ายทอย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และในที่เกิดเหตุยังพบผู้ชายอายุประมาณ 50 ปี อีก 1 ราย ถูกกระสุนยิงเข้าชายโครงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เหตุเกิดบริเวณร้านขายเสื้อผ้ามือสองร้านต้นขวัญ เลขที่ 9 ชุมชนนาก่วมใต้ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
โดยที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.เมืองลำปาง ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งทราบว่าขณะนี้มือปืนที่ก่อเหตุนั้นเป็นหญิง เป็นภรรยาของฝ่ายชายที่ถูกยิง ส่วนสาเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด คาดว่าน่าจะเกิดจากเรื่องชู้สาว โดยฝ่ายหญิงที่เป็นผู้ลงมือยิงไม่ได้หลบหนีไปไหน ไปนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านขายของชำใกล้ที่เกิดเหตุ และรอมอบตัวกับเจ้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.ฐิติชดา อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ และ นายอนุวัฒน์ อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางลำปาง นอกจากนั้นยังพบปลอกกระสุนตกอยู่กลางถนน และรอบรถเก๋ง จำนวน 4 ปลอก และลูกกระสุนตกอยู่ 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กั้นจุดเกิดเหตุเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการตรวจสอบส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นางประภา อายุ 55 ปี เป็นภรรยาของนายอนุวัฒน์ โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดอาวุธปืนซีแซด ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก มาเก็บไว้
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางประภาได้ขี่รถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 3379 ลำปาง มาจอดไว้ด้านหน้าร้านขายของชำข้างตลาดนาก่วมใต้ และได้เฝ้ารออยู่ จนกระทั่งพบเห็นรถยนต์เก๋งนิสสัน ขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านต้นน้ำแฟชั่น ซึ่งภายในรถมี นายอนุวัฒน์ และ น.ส.ฐิติชดา นั่งมาด้วยกัน จึงได้เดินเข้าไปหาและใช้อาวุธปืน 9 มม. ยิงใส่ทั้งคู่ไปหลายนัดขณะที่กำลังลงจากรถ โดยนายอนุวัฒน์ได้วิ่งไปล้มลงอยู่กลางถนน ส่วน น.ส.ฐิติชดา พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้านและล้มลงบริเวณหน้าประตู กระทั่งปืนขัดลำกล้อง นางประภา จึงได้กลับมานั่งรอมอบตัวอยู่ด้านข้างร้านขายของชำ โดยมีพลเมืองดีช่วยคุมตัวไว้ ก่อนจะแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เบื้องต้นนางประภา ให้การว่า ตนเองทราบว่าสามีได้คบหากับ น.ส.ฐิติชดามานานแล้ว และได้เคยบอกให้เลิกรากันหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมเลิกกัน ทำให้เกิดความคับแค้นใจ ขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอทั้งสองคน เมื่อเห็นรถมาจอดจึงเดินเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่นั้น ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่า น.ส.ฐิตชดา เสียชีวิตลงแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางประภา ผู้ก่อเหตุไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป