เจ้าหญิงนิทรามะกัน "คลอดลูก" ปริศนา! ทั้งที่นอนป่วย 14 ปี คาดโดนข่มขืนคาเตียง

เจ้าหญิงนิทรามะกัน "คลอดลูก" ปริศนา! ทั้งที่นอนป่วย 14 ปี คาดโดนข่มขืนคาเตียง

เจ้าหญิงนิทรามะกัน "คลอดลูก" ปริศนา! ทั้งที่นอนป่วย 14 ปี คาดโดนข่มขืนคาเตียง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวชาวสหรัฐเชื้อสายอินเดียนแดงคนหนึ่ง อายุ 29 ปี ที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราที่ศูนย์พยาบาลอาเซียนดา เฮลธ์แคร์ ในเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนามานาน 14 ปี ให้กำเนิดทารกเพศชายอย่างเป็นปริศนาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

เหตุนี้ทำให้ตำรวจขอศาลออกหมายค้นศูนย์พยาบาลดังกล่าว เพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากพนักงานเพศชายทุกคนมาตรวจสอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนว่าสาวคนนี้ตั้งท้องได้อย่างไร

ซีอีโอบริษัทศูนย์พยาบาลลาออก

หลังจากเกิดเหตุการณ์สุดนี้ นายเดวิด เลโบวิตซ์ โฆษกของอาเซียนดา เด ลอสแองเจลิส บริษัทที่ดูแลศูนย์พยาบาลแห่งหนี้ กล่าวว่า นายบิล ทิมมอนส์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทตัดสินใจลาออกแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.) 

นายแกรี่ ออร์แมน สมาชิกกรรมการบริหาร บอกว่า บริษัทจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นนี้

"เราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้ป่วยและพนักงานของเราทุกคนจะได้รับความปลอดภัย" นายออร์แมน กล่าว

สุดคาใจ! ทำไมพนักงานไม่รู้ว่าท้อง

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ คือ ไม่มีพนักงานคนไหนทราบเลยว่าสาวคนนี้ตั้งท้องจนกระทั่งก่อนคลอด ซึ่งประเด็นนี้มีการถกเถียงในโลกออนไลน์อย่างมาก บางความเห็นมองว่าสาวคนนี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พนักงานจะต้องอาบน้ำให้เธออยู่แล้ว ทำไมถึงไม่มีใครรู้ว่าเธอท้องอยู่

"พวกเขา(พนักงาน)ไม่ได้อาบน้ำให้เหรอ แล้วครอบครัวสาวคนนี้หายไปไหน?"

อีกความเห็นหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าคนคนหนึ่งท้องอยู่และประจำเดือนไม่มานานถึง 9 เดือน ก็ต้องมีการตรวจสอบให้รู้ว่าสาวคนนี้ท้องหรือมีอาการอื่นๆ หรือไม่

"ฉันว่าพยาบาลที่นี่นี่แหละน่าสงสัย เพราะปกติแล้ว ถ้าประจำเดือนไม่มา 9 เดือนนี่ถือว่านานมากเลยนะ จริงอยู่ที่พยาบาลอาจคิดไม่ถึงว่าเธอจะท้อง แต่ถ้าประจำเดือนไม่มานานขนาดนี้ ก็ควรต้องมีบันทึกเอาไว้ในประวัติ แล้วก็ต้องตรวจเพื่อติดตามอาการว่ามีโรคพื้นฐานหรือหมดประจำเดือนก่อนวัยหรือเปล่าสิ"

ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า ผู้ก่อเหตุอาจเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น ทั้งคนในและคนนอก การตรวจสอบดีเอ็นเอเฉพาะพนักงานในศูนย์พยาบาลแห่งนี้อาจไม่เพียงพอ

"คนก่อเหตุอาจจะเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มาเยี่ยมผู้ป่วยคนอื่น หรือแม้แต่ช่างซ่อม (อย่างเช่น ช่างแอร์ ช่างฮีตเตอร์ หรือช่างประปา) หรือคนส่งของ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพนักงาน เป็นไปได้หลายอย่างมาก แต่ยังไงซะ เรื่องนี้น่าสลดใจอยู่ดี"

พบประวัติศูนย์พยาบาลโดนร้องเรียนเรื่องเพศ

ด้านเดอะการ์เดียน สำนักข่าวอังกฤษ เผยว่า บันทึกคำร้องเรียนของรัฐแอริโซนา มีบันทึกเกี่ยวกับการร้องเรียนบริษัทนี้หลายคำร้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2556 ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการซ้อมหนีไฟไหม้ และความไม่ยุติธรรมในการคัดกรองผู้ป่วยให้ได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือในโครงการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทางจากการรักษาพยาบาลของรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่เรียกว่า เมดิกเอด

แต่มีคำร้องหนึ่งในปี 2556 ที่อ้างว่าพนักงานคนหนึ่งของศูนย์พูดจาเรื่องเพศอย่างไม่เหมาะสมต่อผู้ป่วย 4 คน ซึ่งพนักงานคนนี้โดนไล่ออกไปแล้ว

นายมาร์ติน โซโลมอน ทนายความในเมืองฟินิกซ์ที่ถนัดคดีทำร้ายร่างกาย บอกว่า ทนายคนใดก็ตามที่จะว่าความให้กับสาวเคราะห์ร้ายคนนี้ ควรขอประวัติการแพทย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อพนักงานทั้งปัจจุบันและเก่า และแม้แต่คดีความในอดีตที่อาเซียนดาเข้าไปมีส่วน

"มีข้อมูลอีกเยอะที่เราไม่มี แต่ของแบบนี้ต้องมีคนรู้เห็นแน่ๆ แต่ไม่ว่าใครจะเป็นคนก่อเรื่อง พนักงานหรือคนข้างนอก หน้าที่ของศูนย์พยาบาลแห่งนี้คือต้องปกป้องคนไข้ ไม่ใช่เหรอ" นายโซโลมอน กล่าว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook