จับเสื้อแดงเชิดเงิน3ล้านเจ้าของอู่แท็กซี่

จับเสื้อแดงเชิดเงิน3ล้านเจ้าของอู่แท็กซี่

จับเสื้อแดงเชิดเงิน3ล้านเจ้าของอู่แท็กซี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบแล้ว เสื้อแดง เชิดเงิน 3 ล้านเจ้าของอู่แท็กซี่ หนีกบดานแมนชั่นชานกรุง ค้นห้องเจอเงินแค่ 1.8 ล้าน อ้างจ่ายหนี้พนัน ด้านดาราตัวประกอบพาเมียดูหน้าขณะแถลงข่าว แฉลวงหุ้นจัดคอนเสิร์ตรณรงค์ลดโลกร้อน ก่อนเชิดหนี 7 แสน ตร.เผยเหยื่อโผล่แจ้งความอื้อ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.บุญเพ็ญ มั่งคั่ง ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย และ พ.ต.ท.ธรากร เลิศพรเจริญ สว.สส.สน.โชคชัย ร่วมแถลงผลการจับกุม นายวุฒิพงษ์ เรบุตร หรือ อ็อฟ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 4 ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 โดยจับได้พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด 9 มม. เครื่องกระสุนขนาดเดียวกัน 18 นัด วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง ซองปืน 1 ซอง ซองใส่บัตรข้าราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระเป๋าหนังสะพายสีดำ 1 ใบ และรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ โดยจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 505 ชั้น 5 อาคารพี แอนด์ เค แมนชั่น ถ.รามคำแหง ซ.รามคำแหง 166 แขวงและเขตมีนบุรี กทม.

พ.ต.อ.พชร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 14 พฤษภาคม พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้รับแจ้งจาก น.ส.อริยาภรณ์ ทิมนาค เจ้าของกิจการให้เช่ารถแท็กซี่ ว่า ถูกผู้ต้องหารายนี้ลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 ล้านบาทแล้วหลบหนีไป โดยผู้เสียหายให้การว่า รู้จักกับผู้ต้องหาเมื่อครั้งไปร่วมชุมนุมกับม็อบเสื้อแดงที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง โดยผู้ต้องหาทำทีเข้ามาตีสนิทและขอเบอร์โทรศัพท์มือถือ จากนั้นได้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมาจนสนิทสนมกันในที่สุด เมื่อเล่าให้ฟังว่ากำลังหาเงินมาลงทุนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผู้ต้องหาจึงเสนอว่าสามารถหาแหล่งกู้ยืมเงินนอกระบบได้ คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.68 ต่อปี โดยจะอนุมัติวงเงินให้ได้สูงถึง 70 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาขอส่วนแบ่งค่านายหน้าจำนวน 5 ล้านบาท และพูดจาหว่านล้อมจนผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงตอบตกลง แต่ขอวงเงินเพียง 50 ล้านบาท และขอลดเงินค่านายหน้าให้ผู้ต้องหาแค่ 3 ล้านบาท

พ.ต.อ.พชร กล่าวต่อว่า หลังจากตกลงกันแล้ว ผู้เสียหายได้นัดหมายให้ผู้ต้องหามารับเงินค่านายหน้า เมื่อถึงวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี สีบรอนซ์ มารับที่บ้านพักย่านร่มเกล้า ระหว่างทางผู้ต้องหาได้ขับรถมาที่ห้างเทสโก้ โลตัส สาขาถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก่อนจะออกอุบายให้ผู้เสียหายลงซื้อของฝาก เพื่อนำไปเป็นสินน้ำใจให้แก่นายทุนเงินกู้ เมื่อผู้เสียหายลงจากรถโดยวางเงิน 3 ล้านบาทไว้ในรถ แล้วไปเลือกซื้อของประมาณ 20 นาที เมื่อกลับมาก็พบว่าผู้ต้องหาขับรถหลบหนีไปพร้อมเงินจำนวนดังกล่าว

"หลังรู้เรื่องผมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกแกะรอยคนร้าย จนรู้ว่าเป็นใคร พักอยู่ที่ไหน กระทั่งช่วงเช้าได้วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพัก เราพบปืน 9 มม.มีกระสุนเต็มรังเพลิงในลักษณะพร้อมใช้งานซ่อนอยู่ใต้หมอนบนเตียงนอน เขาบอกว่าซื้อปืนมาจากสระบุรีราคา 5 หมื่นบาท และยังพบเงินของผู้เสียหายเหลืออยู่แค่ 1.89 ล้านบาท ซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษ วางอยู่ใต้ชั้นวางของใต้หัวเตียง ผู้ต้องหาให้การว่า เงินที่หายไปส่วนหนึ่งเอาไปใช้หนี้การพนัน เขาบอกว่าเรียนจบระดับ ปวช.จากสถาบันแห่งหนึ่ง มีอาชีพค้าขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป" พ.ต.อ.พชร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวมีผู้เสียหายอีกรายคือ นายสมศักดิ์ ปะดูกา ดาราตัวประกอบภาพยนตร์ในสังกัดไฟว์สตาร์ โปรดักส์ชั่น และ นางญณิดา สระทองแยง ภรรยา ซึ่งถูกผู้ต้องหาหลอกเอาเงินไปจำนวน 7 แสนบาท โดยใช้อุบายในลักษณะเดียวกัน เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาด้วย

นายสมศักดิ์ เล่าว่า ผู้ต้องหาเข้ามาตีสนิท โดยแสดงตัวเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคนดังในวงการต่างๆ มากมายโดยนำภาพถ่ายคู่ระหว่างผู้ต้องหากับบุคคลเหล่านั้นมาให้ดู และแต่ละครั้งที่พบกัน ผู้ต้องหาจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ไม่ซ้ำกัน อีกทั้งมีวิธีพูดที่น่าเชื่อถือ ชักชวนให้ตนและภรรยาร่วมลงทุนจัดคอนเสิร์ตศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดัง อ้างว่าหาเงินช่วยชมรมกรีน เวิลด์ ออฟ ไทยแลนด์ ในการนำไปจัดกิจกรรมลดโลกร้อน และส่วนต่างจากรายได้จัดงานจะนำมาแบ่งกัน แต่ขอให้จ่ายเงินค่าดำเนินการไปก่อนเป็นเงิน 7 แสนบาท จนหลงเชื่อจึงนำเงินไปลงทุน จากนั้นผู้ต้องหาได้เชิดเงินหลบหนีไป ตนพยายามติดตามหาตัวมาโดยตลอด แต่ก็ไม่พบ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาจะดำเนินการเองโดยลำพัง แต่คาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอยู่ด้วย เพราะยังมีผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง โดยรายล่าสุดได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชลบุรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook