โปแลนด์จับ 2 ลูกจ้าง "หัวเว่ย" สงสัยเป็นสายลับให้จีน วอน "อียู-นาโต้" คว่ำบาตร

ตำรวจโปแลนด์จับกุมพนักงานของ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ บริษัทด้านไอทีชื่อดังจากจีน จำนวน 2 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ม.ค.) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนายหวัง เว่ย์จิง ส่วนอีกรายเป็นคนโปแลนด์ เนื่องจากตกเป็นที่สงสัยว่าอาจเป็นสายลับมาสอดแนมกิจการภายในของโปแลนด์ 

เหตุนี้ทำให้หัวเว่ยแถลงเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ว่านายหวังได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทแล้ว และจะให้ความร่วมมือกับทางการโปแลนด์อย่างเต็มที่ 

วอนอียู-นาโต้ออกแถลงการณ์ร่วม

อย่างไรก็ตาม นายโยอาคิม บรุดซินสกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของโปแลนด์ ได้เดินทางไปสัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง และเรียกร้องไปยังกลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เช่นเดียวกับโปแลนด์ ว่าให้ออกแถลงการณ์กีดกันหัวเว่ยจากตลาด

"ประเทศอื่นในนาโต้ก็กังวลเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ว่าหัวเว่ยกำลังสอดแนมความมั่นคงของตัวเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการออกแถลงการร่วมกันของชาติอียูและสมาชิกนาโต้" นายบรุดซินสกี กล่าว

โฆษกทูตจีนลั่นปกป้องพลเมืองจีนเต็มที่

ด้านโฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอร์ซอ ของโปแลนด์ ให้ความเห็นว่า จีนไม่เห็นด้วยต่อแผนการใส่ความที่มีการวางแผนมาอย่างรอบคอบ หรือประดิษฐ์ความจริงขึ้นมาจากเรื่องไม่จริง แต่ไม่ได้ระบุว่ากล่าวถึงเรื่องนี้หรือไม่ และสถานทูตจะปกป้องสิทธิทางกฎหมายของผลประโยชน์ของพลเมืองจีนอย่างเต็มที่

เดินหน้าสัมพันธ์จีนต่อ

ถึงอย่างนั้นนายบรุดซินสกี ก็บอกว่า โปแลนด์อยากให้มีการพูดคุยกันว่าจะกีดกันหัวเว่ยออกจากตลาดได้อย่างไร แต่ก็จะยังให้ความร่วมมือกับจีนในด้านต่างๆ เช่นเคย

"ความสัมพันธ์กับจีนที่เราต้องการ ต้องเป็นความสัมพันธ์ที่ดี แน่นแฟ้น และน่าดึงดูดสำหรับทั้งสองฝ่าย"

ย้อนต้นเหตุขัดแย้งหัวเว่ยสักนิด

เรื่องที่เกิดขึ้นกับหัวเว่ยในโปแลนด์นี้ ถือเป็นความขัดแย้งล่าสุดของบริษัทนี้ในโลกตะวันตก เพราะเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามในกฎหมายที่ห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐของสหรัฐใช้อุปกรณ์ใดๆ ของหัวเว่ย และขณะนี้กำลังนายทรัมป์ก็กำลังพิจารณาว่าจะออกคำสั่งเดียวกันนี้กับบริษัทเอกชนในสหรัฐด้วยหรือไม่ เพราะเกรงว่าอุปกรณ์ของบริษัทนี้จะแอบเก็บข้อมูลลับของประเทศให้จีนทราบ

ต่อมาเมื่อเดือน ธ.ค. ตำรวจแคนาดาจับตัวนางสาวเมิ่ง หวั่นโจว ตามคำขอของสหรัฐที่ต้องการตัวมาดำเนินคดี โดยอ้างว่านางสาวเมิ่งแอบทำธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศที่สหรัฐสั่งคว่ำบาตร ไม่ให้บริษัทต่างๆ ทำธุรกิจด้วย แถมยังหลอกให้ธนาคารต่างๆ มีส่วนในการทำสัญญาธุรกิจของหัวเว่ยในอิหร่าน

>> แคนาดารวบตัวลูกสาวผู้ก่อตั้ง "หัวเว่ย" เตรียมส่งตัวดำเนินคดีที่สหรัฐ

>> สหรัฐฯ เตือนพลเมืองไปจีน หวั่นถูกเอาคืนกรณีจับผู้บริหารหัวเว่ย

ส่วนญี่ปุ่น ที่เป็นพันธมิตรที่แนบแน่นของสหรัฐ ก็ได้สั่งให้หน่วยงานรัฐงดใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยแล้ว โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงเช่นกัน

>> ญี่ปุ่นเตรียม "สั่งห้าม" จัดซื้อสินค้าจาก "หัวเว่ย-แซดทีอี" หวั่นจีนล้วงข้อมูลความมั่นคง