ส่อง "เกาหลีใต้" จัดการฝุ่น เมื่อ PM 2.5 เกินขีด รัฐบาล-ท้องถิ่นขยับ! หวั่นคน "ปอดพัง"

ส่อง "เกาหลีใต้" จัดการฝุ่น เมื่อ PM 2.5 เกินขีด รัฐบาล-ท้องถิ่นขยับ! หวั่นคน "ปอดพัง"

ส่อง "เกาหลีใต้" จัดการฝุ่น เมื่อ PM 2.5 เกินขีด รัฐบาล-ท้องถิ่นขยับ! หวั่นคน "ปอดพัง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวชญาณิกา ชูเชิด พนักงานออฟฟิศสาวบริษัทบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอโศก สวมหน้ากากอนามัยไปทำงานตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพราะทุกครั้งที่มองไปยังท้องฟ้าจากห้องพักของตน มักคิดว่าสุขภาพของตนจะแย่หากสูดอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นของกรุงเทพมหานครเข้าไป แม้ว่าคนอื่นๆ จะไม่ใส่ก็ตาม

สาวรายนี้ยอมรับว่า บางครั้งคนก็มองด้วยความแปลกใจ แต่ตนเข้าใจ เพราะบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีฝุ่นละอองในอากาศจนเป็นอันตราย ขนาดตนที่ทำงานในบริษัทสื่อบันเทิงที่พอมีโอกาสเห็นข่าวในเว็บไซต์ ก็ยังไม่เห็นการแจ้งเตือนจากภาครัฐนัก 

ท้องฟ้าที่กรุงโซลก็มีสภาพไม่ต่างจากกรุงเทพมหานคร ผู้อาศัยในเมืองหลวงของเกาหลีใต้ต่างพากันถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย ที่แทบจะไม่เห็นอะไรเลยนอกจากวัตถุใกล้ๆ แต่สิ่งที่ต่างออกไป คือ การจัดการจากรัฐบาลระดับชาติและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในเกาหลีใต้ ที่มีความตื่นตัวและมองสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ

สั่งงดกิจกรรมกลางแจ้ง

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เทศบาลกรุงโซลแจ้งเตือนให้ชาวเมืองหลวงงดทำกิจกรรมนอกบ้าน อย่างเช่น การวิ่งออกกำลังกาย และถ้าหากต้องออกมาสัมผัสอากาศภายนอกก็ควรสวมหน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก ไม่ใช่แค่นั้นยังประกาศงดให้บริการลานสเก็ตหน้าศาลาว่าการเมือง

เหตุนี้เป็นเพราะการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทำให้ร่างกายต้องสูดอากาศเข้าไปมากกว่าปกติ แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กมากเหล่านี้ สามารถเล็ดลอดเข้าผ่านการกรองของจมูกเข้าไปในระบบหายใจได้ หากไม่ป้องกัน

ลดใช้รถส่วนตัว

มาตรการเพียงเท่านี้คงไม่พอ เทศบาลกรุงโซล ยังออกคำสั่งเกี่ยวกับการจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ด้วยการห้ามพนักงานของรัฐขับรถมาทำงาน โดยให้ใช้ขนส่งมวลชนอาทิ รถไฟใต้ดิน แทน พร้อมกับปิดลานจอดรถหลายแห่งที่เทศบาลเป็นผู้บริหาร

เทศบาลยังออกข้อห้ามสำหรับรถยนต์ส่วนตัวเช่นกัน ด้วยการไม่อนุญาตให้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลที่จดทะเบียนย้อนไปตั้งแต่ปี 2545 ขับเข้ามาในเขตเมืองหลวง เพราะรถรุ่นเก่าเหล่านี้เผาไหม้ไม่ดีเหมือนครั้งที่ซื้อมาใหม่ๆ และปล่อยไอเสียมากกว่ารถยนต์รุ่นหลังๆ 

หั่นกำลังผลิตไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางของเกาหลีใต้ก็มีความเคลื่อนไหวเหมือนกัน อย่างเช่น เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) กระทรวงสิ่งแวดล้อมมีคำสั่งให้โรงไฟฟ้าในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองในอากาศ คือ กรุงโซลและจังหวัดข้างเคียง อย่างเช่น จ.อินชอน และ จ.คยองกี ลดกำลังผลิตลงมาอยู่ที่ 80% ของกำลังการผลิตปกติ เพื่อช่วยลดการปล่อยฝุ่นละอองอีกแรงหนึ่ง

>> เกาหลีใต้เอาจริง! สั่งโรงไฟฟ้าลดปล่อยควัน หลัง "ฝุ่นละออง" กลืนท้องฟ้ากรุงโซล

จำกัดรถวิ่งในเมือง แก้ปัญหาระยะยาว

ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นมาตรการลดฝุ่นเพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่เทศบาลกรุงโซลมีแผนการระยะยาว ที่จะช่วยให้อากาศในเมืองสะอาดมากขึ้น เพราะตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.นี้ จะเริ่มใช้มาตรการอนุญาตให้รถวิ่งเข้าเมืองได้ตามป้ายทะเบียนเลขคี่และเลขคู่ 

ไม่ใช่แค่นั้นจะห้ามรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลที่จดทะเบียนในปี 2545 หรือเก่ากว่านั้น และรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินที่จดทะเบียนในปี 2530 หรือเก่ากว่านั้น ไม่ให้วิ่งเข้ามาในกรุงโซล พร้อมกับจ่ายเงินชดเชยสูงสุด 1.65 ล้านวอน (46,700 บาท) ส่วนรถบรรทุกน้ำหนัก 2.5 ตันขึ้นไป ก็จะได้รับเงินคันละ 1.43-9.28 ล้านวอน (40,000-264,000 บาท) เพื่อติดตั้งอุปกรณ์กรองฝุ่นละอองจากท่อไอเสีย

ขนส่งมวลชนราคาถูก-ครอบคลุมทุกพื้นที่

การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และดึงดูดให้ผู้คนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะ เป็นงานหลักอีกงานหนึ่งของเทศบาลกรุงโซล เนื่องจากเมืองนี้มีแนวคิดว่า "เราฝันถึงเมืองที่ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องใช้รถยนต์" 

นายจักรา สนินัด เมคอัพอาร์ตทิสชื่อดังของย่านป่าห้า-นิมมานเหมินท์ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่มีโอกาสเดินทางไปเยือนกรุงโซลเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวว่า ตนรู้สึกชื่นชอบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถไฟใต้ดินของกรุงโซลมาก เนื่องจากราคาเที่ยวหนึ่งอยู่ที่ 1,250 วอน (35 บาท) ตลอดสาย เท่ากับว่าขึ้นจากชานเมืองมาในเมือง จะไกลแค่ไหน ก็ราคานี้ ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับรายได้ของคนที่นั่น แถมบัตรเติมเงิน T-Money ยังใช้ได้กับรถไฟฟ้าสายอื่นและรถเมล์ได้ด้วย

ช่างแต่งหน้าหนุ่มรายนี้ บอกอีกว่า ที่สำคัญคือ รถไฟฟ้ามีหลายสายและหลายสีมากๆ ยิ่งไปกว่านั้ นยังครอบคลุมทุกพื้นที่ของเมือง บางสายลากไปไกลถึงจังหวัดข้างเคียง ซึ่งตนอยากให้เมืองใหญ่ในประเทศไทย อย่าง กรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่ มีบริการแบบนี้ให้ประชาชน 

อย่างไรก็ตาม นายวชิรธรรม เทพนุรักษ์ พนักงานบริษัทสื่อแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ที่เพิ่งออกรถใหม่รุ่นประหยัด บอกว่า เมื่อไม่นานมานี้เพจของผู้ว่าราชการกรุงเทพคนปัจจุบัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แนะนำให้คนกรุงเทพมหานครใช้รถสาธารณะแทนรถส่วนตัวเพื่อช่วยกันลดฝุ่นละออง แต่ตนอาจจะขอผ่าน เพราะต้องออกจากบ้านในย่านโชคชัย 4 ข้ามจังหวัดทุกวัน แถมไม่มีรถไฟฟ้าไปถึง ส่วนรถเมล์ก็ต้องใช้เวลานาน

"คิดดูแล้วกัน แค่นั่งรถเมล์ผ่านถนนลาดพร้าวกับถนนวิภาวดี ต้องเสียเวลาชีวิตไปกี่ชั่วโมงแล้ว ต้องตื่นตี 3 งั้นเหรอ แล้วถามว่ารถไฟฟ้าอยู่ไหน ไม่มี ศูนย์!!! นายวชิรธรรม กล่าว

ขณะเดียวกัน นางสาวชญาณิกา ที่ทำงานและอาศัยอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า บอกว่า จากเดิมที่เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันมารับ ก็หันมาใช้รถไฟฟ้าแทน แม้ต้องออกแรงเดินบ้าง และตนก็เป็นกำลังใจให้ภาครัฐในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มันเกินจะรับได้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook