11 ปีไม่หมดหวัง "ใครฆ่าโทโมโกะ" พ่อเหยื่อทวงถามคดีฆาตกรรมลูกไม่คืบ
ทูตญี่ปุ่นนำพ่อเหยื่อฆาตกรรมที่สุโขทัย เมื่อปี 2550 เข้าพบ "พล.อ.อ.ประจิน" เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี หลังผ่านไป 11 ปียังจับคนร้ายไม่ได้ พร้อมเพิ่มรางวัลนำจับเป็น 2 ล้านบาท
นายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้พา นายยาสึอากิ คาวะชิตะ พ่อของ น.ส.โทโมโกะ คาวะชิตะ สาวชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆาตกรรมจนเสียชีวิต บริเวณเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดที่ผ่านไป 11 ปี แล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
ซึ่งภายหลังการหารือ พล.อ.อ.ประจิน เปิดเผยว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมีความกังวล เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดได้ จึงขอให้มีการเพิ่มรางวัลนำจับจาก 1.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากตำรวจท้องที่ 1 แสนบาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5 แสนบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) 1 ล้านบาทโดยคณะทำงานจะพิจารณาเพิ่มรางวัลนำจับ ในส่วนของ DSI อีก 4 แสนบาท ทำให้เงินรางวัลนำจับจะอยู่ที่ 2 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ทางรัฐบาลไทยยังให้ความมั่นใจว่าจะติดตามดำเนินคดีในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์เพื่อหาเบาะแสติดตามตัวผู้กระทำความผิด ขณะเดียวกันก็จะดูแล ให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายและปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยทางการไทยจะเปิดรับข้อห่วงใยจากชาวญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ
นายยาสึอากิ พ่อของเหยื่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า มีความห่วงเรื่องอายุความของคดีที่มี 20 ปี แต่ขณะนี้ผ่านไป 11 ปีแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย หากหมดอายุความและผู้กระทำความผิดยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะทางญี่ปุ่นก็ได้ยกเลิกคดีความนี้ไปหลายปีแล้ว
สำหรับคดีดังกล่าวยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ ด้วยความพยายามขอให้รื้อคดีความมาสอบสวนใหม่ เพราะยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 พบร่างหญิงสาวชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตที่เชิงเขาทางขึ้นวัดสะพานหิน ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย สภาพศพถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์ มีร่องรอยการต่อสู้ แต่ไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ คดีดังกล่าวกลายเป็นข่าวโด่งดังอื้อฉาวไปทั่วโลก