เกษตรกรเมิน "ประกาศห้ามเผา" เร่งเผาตอซังข้าวไม่สนคำเตือนจากผู้ว่า!

เกษตรกรเมิน "ประกาศห้ามเผา" เร่งเผาตอซังข้าวไม่สนคำเตือนจากผู้ว่า!

เกษตรกรเมิน "ประกาศห้ามเผา" เร่งเผาตอซังข้าวไม่สนคำเตือนจากผู้ว่า!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 17 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากปัญหาหมอกและควันก่อให้เกิดฝุ่นละออง ซึ่งส่งผลให้เป็นมลพิษกระทบต่อสุขภาพหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งช่วงนี้จะมีเกษตรกรเผาตอซังข้าว และต้นอ้อย ทำให้เกิดหมอกควันและค่าฝุ่นละอองในอากาศในปริมาณสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศขอความร่วมมือห้ามประชาชนเผาเด็ดขาดในช่วงฤดูแล้งปี 2562

>> ผู้ว่าฯ โคราชห่วงปัญหา "PM 2.5" สั่ง 32 อำเภอห้ามเผาป่าเด็ดขาด-ฝ่าฝืนมีโทษหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พบว่าเกษตรกรยังคงเผาตอซังข้าวและใบอ้อยอยู่ โดยมิได้ใส่ใจกับคำเตือนจากภาครัฐแต่อย่างใด และจากการสอบถามนายถวิล เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ตำบลเสมาใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุไฟไหม้ในคราวนี้เกิดจากการจุดไฟปิ้งปลาจากการสูบบ่อในที่นาของชาวบ้านจนกระทั่งไฟลุกลามยากเกินควบคุม ที่ผ่านมาเคยได้บอกเตือนแล้วให้ระวังเรื่องการจุดไฟในช่วงนี้ ทำให้ตนเองต้องรีบนำน้ำมาดับและย้ายฝูงวัวออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว โดยหลังจากไฟไหม้ไปแล้วก็กระทบกับการนำวัวมาเลี้ยงเป็นอย่างมากเนื่องจากรอบหมู่บ้านหญ้าสำหรับเลี้ยงวัวถูกไฟเผาไหม้จนเกือบหมดต้องต้อนวัวไปเลี้ยงไกลจากหมู่บ้านมากยิ่งขึ้น

นายจรูญศักดิ์ ขันทอง หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองบัวใหญ่เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งจะได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแทบทุกวัน ซึ่งรถดับเพลิงของเทศบาลต้องทำงานหนักมากในช่วงนี้ ทั้งช่วยดับไฟที่ไหม้หญ้าในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงที่ร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งจากเหตุไฟไหม้หญ้าแต่ละครั้งมักจะไม่มีผู้รับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคำแนะนำให้เกษตรกรเวลาจะเผาตอซังข้าวหรือใบอ้อยให้แจ้งทางเทศบาลทราบ เพื่อเตรียมรถดับเพลิงหรือให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยในการทำแนวกันไฟ

ซึ่งเข้าใจดีว่าคงไม่สามารถห้ามการเผาตอซังข้าวและใบอ้อยได้ เนื่องจากเป็นวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้าน แต่อยากให้ใส่ใจทำแนวกันไฟป้องกันการไหม้ลุกลาม ซึ่งถ้าพบเหตุไฟไหม้หญ้าขอให้แจ้งหน่วยงานควบคุมไฟป่าอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือโทรสายด่วนได้ที่ สายด่วนไฟป่า 1362 สายด่วนทางหลวง 1586 และสายด่วนทางหลวงชนบท 1141 สายด่วนนิรภัย 1784 แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้าย 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook