หนูน้อยหายตัวลึกลับใกล้วัด ตามหาวุ่นเกือบ 5 ชั่วโมง แม่จุดธูปขอขมา-เจอตัวปุ๊บ

เมื่อคืนวานนี้ (17 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุเด็กหายตัวไปในบริเวณวัดไทรย์ หมู่ที่ 7 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง จึงรุดยังที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังจับกลุ่มพุดคุยกันภายในวัด

จากการสอบถามทราบว่า เด็กชายที่หายตัวไปคือ น้องพี อายุ 8 ขวบ โดยหายไปจากบ้านพัก ที่อยู่ใกล้ๆ กับวัดดังกล่าว ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็น ทางญาติและชาวบ้านได้ออกตามหากันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแต่ยังไม่พบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รส.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและอาสาสมัครมูลนิธิปอเต๊กตึ้ง ร่วมกับชาวบ้านกว่า 100 นายระดมค้นหาทั่วทั้งวัด รวมทั้งทุ่งลำท่าแดง และบริเวณคลองชลประทาน แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้าง ประกอบกับความมืดเป็นอุปสรรค ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก

ชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า เมื่อช่วงเย็นยังเห็นน้องพีวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ บริเวณวัดเป็นปกติเหมือนทุกวัน แต่หลังจากเริ่มมืดค่ำ เด็กๆ ก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ปรากฏว่า น้องพี หายไป ทางพ่อแม่และญาติๆ จึงช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบ เกรงว่าจะเกิดอันตรายเกิดขึ้น

เช่นเดียวกับ น้องโน เพื่อนเล่นของน้องพี บอกว่า เมื่อช่วงเย็นได้มาวิ่งเล่นกันที่ลานวัด ปกติจะชอบเล่นซ่อนแอบกันเป็นประจำ น้องพีได้ปั่นจักรยานมาจอดทิ้งไว้ที่บ้านตน ก่อนจะเห็นมีคนขี่รถจักรยานพาน้องพีไปไหนไม่รู้ และตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ก่อนกลุ่มเพื่อนเด็กๆ จะย้ายแยกกลับบ้านไป

แม่ของเด็กได้จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด

ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ที่ออกไปค้นหาใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง เข้าสู่ช่วงดึกดื่น ก็ยังไม่พบวี่แววของน้องพี ทำให้ต้องนำกำลังกลับมารวมตัวกันที่วัดอีกครั้ง นางเนตรดาว แม่ของน้องพี เริ่มรู้สึกร้อนรนใจมากขึ้น จึงได้หันไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด โดยเดินไปจุดธูปบอกกล่าวกับรูปปั้นเหมือนพระครูเกษมจริยคุณ (ฟื้น เขมจาโร) อดีตเจ้าอาวาส อธิษฐานขอให้หาลูกชายเจอ หากลูกทำอะไรล่วงเกิน ก็ขอขมาลาโทษด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่และญาติๆ จึงออกไปค้นหาอีกครั้ง

จนในที่สุด เจ้าหน้าที่ไปพบน้องพีกำลังนอนหลับอยู่ใต้เตียงบนบ้านญาติคนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้วัด แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ บ้านหลังดังกล่าว ทางญาติและเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปค้นหามาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะมีอะไรบังตา

ซึ่งจากการสอบถามน้องพีที่ยังอยู่ในอาการตกใจร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่ทราบว่าทำไมถึงไปนอนอยู่ใต้เตียงดังกล่าวได้ โดยหลังจากเจอตัว นายลำพูน ผู้เป็นพ่อและออกไปตามหาตัวน้องพีตั้งแต่ช่วงค่ำ วิ่งเข้ามาโผกอดและร่ำไห้ที่ได้พบหน้าลูก ก่อนที่จะพาเด็กชายกลับบ้านไปท่ามกลางความโล่งใจของทุกๆ คน