เบรกตัวโก่ง! สั่ง ขสมก.ชะลอขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ออกไปก่อน

เบรกตัวโก่ง! สั่ง ขสมก.ชะลอขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ออกไปก่อน

เบรกตัวโก่ง! สั่ง ขสมก.ชะลอขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ออกไปก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) สั่งให้ระงับการขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางของ ขสมก. ที่จะเริ่มปรับขึ้นในวันที่ 21 ม.ค.นี้ไว้ก่อน และให้ ขสมก.ไปหารือกับกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง

>> ขนส่งสรุปค่ารถโดยสาร รถเมล์-รถแอร์-บขส. ขึ้นหมด 21 ม.ค. 62

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขสมก.ได้รายงานให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทราบความคืบหน้าการรับมอบรถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน และที่เหลือ 189 คัน ได้ภายในเดือน มี.ค. 2562 และจะจัดหาครบ 3,000 คัน ภายในปี 2565 โดยมีการติดตั้งระบบจีพีเอสในรถครบถ้วนแล้ว เหลือติดตั้งระบบ E-Ticket สายต่างๆ ที่ยังล่าช้า

ด้าน นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผอ.ขสมก. กล่าวว่า จะทำหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกเรื่องการไม่ปรับขึ้นราคารถเมล์ต่อไป ส่วนรถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 300 คัน และอีก 189 คันที่กำลังจะส่งมอบนั้นอาจใช้เกณฑ์ราคาใหม่ แต่ต้องหารือกันภายในอีกครั้ง

ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลด้านเศรษฐกิจ รายได้ และกำลังการบริโภคของคน กทม. พบว่าประชากรครึ่งหนึ่งหรือราว 4-5 ล้านคน ไม่สามารถรับภาระค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันได้ และปัญหานี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อมีการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายใหม่ จึงขอให้รัฐบาลควบคุมโครงสร้างค่าโดยสารอย่างเป็นระบบทั้งเส้นทางเดิมและเส้นทางใหม่ เช่นเดียวกับการคุมค่ารถเมล์ที่ผ่านมา หรืออย่างน้อยต้องไม่ปล่อยให้ค่าโดยสารลอยตัวเช่นในปัจจุบัน

“ยกตัวอย่างผู้มีรายได้ขั้นต่ำราว 10,000-15,000 บาท คิดเฉลี่ยค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสายอยู่ที่ 42 บาท หากเดินทางเข้าเมืองต้องเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีกสายจะเป็น 84 บาทต่อเที่ยว หรือ 168 บาทต่อวัน คิดเป็น 3,360 บาทต่อเดือน กรณีมีวันทำงาน 20 วันต่อเดือน เฉพาะแค่ค่ารถไฟฟ้าคิดเป็นภาระค่าใช้จ่ายถึง 33.6% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเกินไป” รักษาการ ผอ.ขสมก.ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook