“บอย ปกรณ์” แจงดราม่าถล่ม ใช้คำว่าเป็นดารา เข้าหลังเวทีถ่ายรูปคู่ “ลิซ่า BLACKPINK”

กลายเป็นกระแสดราม่าที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียล ถึงกรณีที่ดาราไทยหลายคนได้เข้าไปหลังเวทีหลังจบคอนเสิร์ต BLACKPINK จนทำให้ชาวเน็ตตั้งคำถามว่า ทำไมดาราถึงได้สิทธิพิเศษขนาดนี้

ล่าสุด บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หนึ่งหนุ่มที่มีโอกาสได้เข้าไปหลังเวที และถ่ายรูปคู่กับนักร้องเกาหลีสายเลือดไทยอย่าง ลิซ่า BLACKPINK ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวให้ฟังว่า ตนไม่เคยมองว่าตัวเองมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เพราะเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป แต่ที่มีโอกาสได้เข้าไปนั้น น่าจะเป็นเรื่องของการมีคอนเนคชั่นมากกว่า ซึ่งยอมรับว่าตกใจเหมือนกันที่มีคนมาเชิญ แต่ก็ดีใจมากที่มีโอกาสได้พูดคุยและถ่ายรูปกับ ลิซ่า เนื่องจากตนชื่นชอบมานานแล้ว

ล่าสุดเห็นไปคอนเสิร์ต BLACKPINK มา มีคนชวนหรือตั้งใจอยากไปดูเอง ?
“น่ารักมากครับ ก็ไปกับพี่เป๊ก เปรมณัช คือก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสได้ติดตามผลงานของ BLACKPINK มาสักระยะ อย่างแรกเลยที่ชอบคือคาแรกเตอร์ของวงเขาชัด เก่งด้วย น่ารักด้วย และยิ่งในวงมีน้องลิซ่าที่เป็นคนไทย ก็ยิ่งเชียร์”

ได้เจอลิซ่าตัวจริงแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ?
“น้องเขาน่ารักมาก เป็นกันเอง”

มีกระแสดราม่ามาว่า ทำไมดาราหลายๆ คนได้สิทธิพิเศษเข้าไปหลังเวทีครั้งนี้ ?
“มีคนมาบอกบ้างครับ อย่างที่ผมได้บอกไปว่าตัวผมเองมีโอกาสติดตามผลงานของ BLACKPINK มาสักระยะหนึ่ง ทีนี้พอรู้ว่าจะมีคอนเสิร์ตก็เลยอยากมาดู แต่ในส่วนประเด็นหลังเลิกคอนเสิร์ต ผมได้มีโอกาสไปเจอน้องและถ่ายรูป ซึ่งตอนนั้นมีคนมาบอกผมว่าเดี๋ยวจะมีคนที่สามารถพาไปเจอน้องได้ วันนั้นเรายังรู้สึกตกใจเลยว่า จริงเหรอ โชคดีจัง เราเองก็ดีใจเพราะชื่นชมและชื่นชอบในตัวเขาที่เขาเก่งอยู่แล้ว ยิ่งพอได้ไปเจอ น้องเขาก็น่ารักมาก เป็นกันเอง แต่ก่อนที่จะเข้าไปก็จะมีสตาฟทั้งของเกาหลีและของคนไทยคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ วันนั้นเราก็มีโอกาสได้เจอคุณแม่ของน้องด้วย คุณแม่ก็น่ารักมาก ขอบคุณคุณแม่ด้วยครับ”

เห็นว่าคุณแม่น้องลิซ่ามาเชิญให้เข้าไปใช่ไหม ?
“ก็เป็นคอนเนคชั่นทางคุณแม่แหละครับ พอมันเกิดประเด็นนี้ขึ้นมา ต้องบอกว่าถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ ไปกระทบความรู้สึกของใครหลายๆ คน อาจจะรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่โอเค ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ครับ”

พอเราลงรูปไปแล้วได้อ่านคอมเมนต์บ้างไหม ?
“ส่วนใหญ่คอมเมนต์อินสตาแกรมผมจะไม่ค่อยมีอะไร เพราะที่ผมรู้เหมือนจะมีไปดราม่ากันอีกที่ ซึ่งก็มีคนส่งมาให้ดูบ้าง”

ตอนที่ลงรูปมีคิดไหมว่าจะเกิดเหตุการณ์ดราม่าขึ้น ?
“เอ่อ... ด้วยความที่เราเข้าไป เราก็ไม่ได้ฝ่าฝืนเข้าไป เราได้รับการอนุญาตแล้ว”

พอเขาพูดว่า เป็นดาราได้รับอภิสิทธิ์เยอะกว่าคนทั่วไป คำนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
“ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของคอนเนคชั่นมากกว่า คือตัวผมเองผมมองว่าผมเป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไรเลย”

วันนั้นเราเข้าไปคนเดียว หรือมีกลุ่มเพื่อนไปด้วย ?
“ก็มีเพื่อนเข้าไปหลายคนครับ”

แท่งไฟที่ถูกดราม่า ไม่ใช่ของออฟฟิเชียลเอาเข้าคอนเสิร์ตได้ด้วยเหรอ

มีกระแสดราม่าเกี่ยวกับแท่งไฟที่เรานำไปในคอนเสิร์ตด้วย คนสงสัยว่าทำไมเราเอาเข้าไปได้ ?
“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ ที่ผมลงรูปไปก็ลงไปด้วยความที่รู้สึกว่าแท่งไฟอันนั้นน่ารักดี แต่พอลงไปได้ 1-2 ชั่วโมง เพิ่งจะมารู้ว่ามีดราม่าขึ้นมาเล็กน้อย พอรู้ว่าเกิดดราม่าก็คิดแล้วว่าจะทำยังไงดี อาจจะด้วยความไม่รู้ก็คิดหนัก จะเขียนอธิบายดีไหม แต่ถ้าเขียนไปตอนนั้นก็เหมือนเราสื่อสารกันแค่ตัวหนังสือ กลัวว่าถ้าอธิบายไปจะกลายเป็นว่าแก้ตัวหรือเปล่า เราก็เลยยังไม่ได้ทำอะไร แต่พอมาวันนี้ผมก็จะขออธิบายเลยแล้วกัน ผมพูดจริงๆ ผมไม่ได้แก้ตัวหรือโกหกเลย มันไม่ใช่ของผม มันเป็นของเพื่อนของรุ่นพี่ที่นั่งแถวนั้น และพอเราเห็นเราก็ว่ามันน่ารักดี มันตลกดี เราก็เลยเอามาถ่ายรูปและก็คืนเจ้าของไป”

พอเกิดกระแสดราม่าหนักแบบนี้ นอยด์ไหม ?
“เราก็ไม่ได้ถึงขั้นนอยด์หนัก แต่ก็กังวลเหมือนกันนะครับ แต่เราก็เข้าใจในฟีดแบคที่กลับมา ซึ่งแต่ละที่ก็มีสังคมของแต่ละที่ มีวิธีปฏิบัติ มีกฎที่แตกต่างกันออกไป อย่างตัวผมที่ชื่นชอบ BLACKPINK ก็อยากจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มแฟนคลับของเขา เราก็ต้องทำตามธรรมเนียมปฏิบัติของเขา เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เราก็ต้องศึกษาข้อมูลให้มากขึ้น ซึ่งผมก็เข้าใจดี”

จากนี้จะทำให้เราเข็ด จนไม่กล้าไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีครั้งต่อไปเลยไหม ?
“ไม่ๆ จะไปอีก แต่ถ้าไปคราวหน้าเราก็คงต้องศึกษาข้อมูล และเตรียมตัวให้ดีขึ้นมากกว่านี้ครับ อย่างเรื่องแท่งไฟผมก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ”

ถ้าครั้งต่อไปมีคอนเนคชั่นได้ไปหลังเวทีอีก จะไปไหม ?
“โห อันนี้เราก็ต้องระวังตัวมากขึ้นจริงๆ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจ”

ถามถึงเรื่องน้องวันใหม่ ที่หวงเฮียไม่อยากให้มีแฟน เคลียร์กันลงตัวหรือยัง ?
“(หัวเราะ) มันไม่มีอะไรเลยครับ วันนั้นเป็นเรื่องหยอกเล่นๆ ถามว่าเขาหวงไหม เขาก็หวงตามประสาน้องสาว แต่วันนั้นเหมือนแซวกันไปมา และมีคนอยู่เยอะ เขาเลยรู้สึกว่าเขาไม่มีพวกหรือเปล่า และโดยปกติวันใหม่ก็จะเซนซิทีฟกับผมนิดหนึ่ง เลยร้องไห้ แต่ความจริงไม่ได้อะไร พอกลับมาบ้านผมก็ยังแซวๆ เขาบ้าง ว่าจากนี้เฮียจะทำยังไงดี ถ้ามีแฟนจะพามาให้เจอก่อนได้ไหม เขาก็บอกได้ ให้พามาเจอได้ 3 คน”

แสดงว่าเรามีแฟนได้แล้ว ?
“อย่างที่บอกครับ เหมือนเป็นอาการหวงของเด็ก ไม่ได้เป็นกฎเหล็กอะไรขนาดนั้น”

แล้วมีหรือยัง ?
“ไม่มีครับ เร็วไป (หัวเราะ)”

เห็นซื้อของมาเซ่นน้องเล่นๆ ?
“ความจริงตั้งใจจะให้เป็นของขวัญวันเกิด แต่พอดีวันเกิดได้ให้กันไปแล้วที่เกาหลี ก็เลยเก็บไว้ให้วันเด็กแทน”

ถ้าน้องวันใหม่โตเป็นสาว เราก็ต้องหวงน้องเหมือนกันใช่ไหม ?
“หวงอยู่แล้วครับ ส่วนจะให้มีแฟนไหม ผมว่าคนเราต้องมีครอบครัวอยู่แล้วครับ แต่ก็ต้องให้ถึงวัยอันเหมาะอันควร เรื่องหวงคือหวงแน่ แต่ถ้าเขาถึงวัยและรับผิดชอบตัวเองได้ หากอยากจะมีก็คงต้องช่วยเขาดู”

>>“บอย” งานเข้า “วันใหม่” ปล่อยโฮกลางวงสัมภาษณ์ ประกาศไม่อยากให้เฮียมีแฟน