มือปืนสั่งตาย ลูกชาย สท.ชื่อดังภูเก็ต พร้อมชิงปืนพกเหน็บที่เอวหายไป
จ่อยิงโหดลูกชาย สท.คนดังภูเก็ต เสียชีวิตกลางเมือง พร้อมทิ้งลูกปืนและสายคาดเอวไว้ แต่กระบอกปืนถูกชิงหายไป คาดปมปัญหาขัดแย้งส่วนตัว
(19 ม.ค.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี (ถนนเลียบคลองบางใหญ่) ม.1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ข้างโรงบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายธีรศักดิ์ อายุ 29 ปี เป็นลูกชาย สท.ชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต สวมเสื้อยืดกางเกงขา สั้นสีเทา สภาพนอนหงาย มีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็ม สแลซ สีน้ำเงินขาว จอดล้มทับขาขวาอยู่ โดยยังติดเครื่องรถ และเข้าเกียร์ว่าง ยกขาตั้งลงไว้อยู่
จากการตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกกระสุนไม่ทราบขนาด เจาะทะลุที่ขมับด้านซ้าย 1 นัด เลือดไหลนองพื้นเต็ม ส่วนอื่นไม่พบรอยกระสุนปืนแต่อย่างใด ขณะที่เอวของผู้เสียชีวิตมีซองกระสุนปืน พร้อมด้วยลูกกระสุนปืนลูกซองแบบเข็มขัดรัดเอว 1 เส้น แต่ไม่พบอาวุธแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานต่างๆ และสอบสวนพยานที่เห็นการณ์เบื้องต้น
จากการสอบสวนทราบพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า นายธีรศักดิ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี จากฝั่งสำนักงานขนส่งจังหวัดมุ่งหน้าไปสะพานหิน ก่อนที่จะมีคนขับรถยนต์สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น มีคนโดยสารมาด้วย 3-4 คน รถคันดังกล่าวตามมาเรียกให้จอดรถเพื่อพูดคุยข้างทาง
แต่หลังจากนั้น คนบนรถยนต์ก็ได้ชักอาวุธปืนจ่อยิงใส่ขมับของผู้เสียชีวิต 1 นัด ทำให้ร่างล้มคว่ำ หลังจากนั้นได้นำปืนของผู้เสียชีวิตที่เหน็บอยู่ตรงเอว ก่อนเดินไปที่ริมคลองบางใหญ่ แต่ไม่ทราบว่านำปืนโยนทิ้งลงคลองหรือไม่ จากนั้นก็เดินกลับมาขึ้นรถยนต์หลบหนีไปทางสีแยกอาชีวะภูเก็ต
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าจะเกิดจากความขัดแย้งบางอย่าง โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ นายธีรศักดิ์ ผู้เสียชีวิตนั้นจากการสอบถามทราบว่า เป็นบุตรชายของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลรัษฏาเขต 1 ถือเป็น สท.ชื่อดังที่ชาวภูเก็ตรู้จักเป็นอย่างดี เพราะมีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาพื้นที่ท้องถิ่นอยู่ตลอดเวลา