ปฏิบัติการทำฝนหลวงไม่สำเร็จ ลุยต่อวันนี้ หวังลดค่าฝุ่นละอองใน กทม.
![ปฏิบัติการทำฝนหลวงไม่สำเร็จ ลุยต่อวันนี้ หวังลดค่าฝุ่นละอองใน กทม.](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1529/7649418/news14.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ปฏิบัติการฝนหลวงยังทำไม่สำเร็จ เนื่องจากค่าการยกตัวของเมฆยังให้ค่าไม่ดี กรมฝนหลวงลุยต่อวันนี้ หวังบรรเทาค่าฝุ่นละอองในเมืองกรุงให้ลดลง
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงความคืบหน้า ปฏิบัติการฝนหลวงว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) หน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว จ.ระยอง ได้ตัดสินใจบินปฏิบัติการทำฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ในกรุงเทพฯและปริมณฑล
หลังจากบินขึ้นไปวางแกนเมฆ ที่ อ.พานทอง อ.บางปะกง อ.บางน้ำเปรี้ยว แล้ว ได้ตรวจสอบภาพจากเรดาห์ ของกรุงเทพฯ พบว่ามีความเร็วลม 20-30 กม./ชม. ระยะการวางแนวแกนของเมฆ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 60-70 กิโลเมตร ระยะเวลาในการจับจุดก่อเมฆไปถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ชั่วโมง
แต่พบว่าค่าการยกตัวของเมฆค่อนข้างน้อย ทำให้กลุ่มเมฆจางหายไปในช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ปฏิบัติการฝนหลวงจึงไม่สำเร็จ ไม่ทำให้เกิดฝนตกในกรุงเทพฯ ได้ แต่กรมฝนหลวงฯ ยังพยายามเดินหน้าต่อไป โดยในวันนี้ (19 ม.ค.) จะตรวจวัดสภาพอากาศ ตรวจวัดค่าฝุ่นในกรุงเทพฯ เพื่อนำค่าต่างๆ มาวิเคราะห์ว่า จะทำปฏิบัติการขึ้นบินได้หรือไม่
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังกล่าวชี้แจงถึงสารที่นำมาใช้ในการก่อเมฆเพื่อทำฝนหลวง คือ โซเดียมคลอไรด์ หรือ เกลือแกง ที่ประชาชนใช้ในการบริโภค ซึ่งปฏิบัติการทำฝนหลวง นั้นเป็นการเลียนแบบธรรมชาติ เนื่องจากในแกนของเมฆ มาจากน้ำทะเลที่ระเหยไปในอากาศ โดยทางกรมฝนหลวงณ ได้ทำการวิจัย วิเคราะห์คุณภาพน้ำฝน ที่เกิดจากฝนหลวง และน้ำฝนที่เกิดจากธรรมชาติ เมื่อเปรียบเทียบกัน น้ำฝนทั้ง 2 ชนิดไม่มีความแตกต่างกัน และขอให้ประชาชนเข้าใจว่าสารที่นำมาใช้ในการทำฝนหลวงนั้น ไม่เป็นอันตราย