"พระเด็จ" หลงป่าแรมเดือน เล่าถึงชายลึกลับ 2 คน โผล่ชี้ทางบอกให้รออยู่ในถ้ำ

"พระเด็จ" เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ปลอดภัยดีแล้ว พร้อมเล่าประสบการณ์หลงป่านานเป็นเดือน กับปริศนา 2 ชายลึกลับที่นำทางและบอกให้ไปรออยู่ในถ้ำ เดี๋ยวมีคนมารับลงไป

(19 ม.ค.) ภายหลังจากทีมค้นหาที่ประกอบด้วยชาวบ้าน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ม.5 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สามารถพบตัว พระสมเด็จ เปสโล (คงกระพันธุ์) อายุ 56 ปี พระลูกวัดของวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่หายตัวไปบนเทือกเขาผาขี่ควายตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา

โดยทีมค้นหาได้ไปพบตัวพระสมเด็จในถ้ำกลางป่าทึบ ห่างจากเทือกเขาผาขี่ควายที่พระเด็จตั้งใจเดินไปประมาณ 5 กิโลเมตร จากนั้นชาวบ้านและทีมค้นหาได้พาตัวพระเดินลงเขา และพาไปส่งที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย เพื่อตรวจร่างกายและพักฟื้น ซึ่งเบื้องต้นพระสมเด็จมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงดี มีสติดี สามารถพูดจาตอบโต้ได้ดี เพียงแต่น้ำหนักตัวที่ลดลงไปมาก

พลตำรวจตรีถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และพ.อ.นพดล วัชรจิตบวร รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 39 และรองเสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.พิษณุโลก (รอง เสธ.กกล.รส.จว.พิษณุโลก) กองทัพภาคที่ 3 และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากพิษณุโลก มายังตำบลบ้านพร้าว อ.นครไทย และเดินทางที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทยทันที พร้อมกับนำกระเช้าสุขภาพของผบช.ภ.6 และ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 39 พิษณุโลก มอบให้พระสมเด็จ พร้อมให้กำลังใจ

>> ปาฏิหาริย์ยังมี เจอตัว "พระเด็จ" หลงป่าแรมเดือน ฉันหยวกกล้วยประทังชีพ (มีคลิป)

ต่อมาจึงได้ซักถามถึงเหตุการณ์การหายตัวที่ผ่านมาถึง 1 เดือน 2 วัน โดยบอกว่า วันนี้ทางตำรวจตั้งใจนำเฮลิคอปเตอร์มาร่วมกับญาติเพื่อเตรียมบินค้นหาพระสมเด็จอยู๋แล้ว แต่ทีมค้นหาของชาวบ้านมีความชำนาญกว่ามาก และสามารถพบตัวพระสมเด็จ สามารถช่วยกลับมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้ก็สิ้นสุดของการค้นหา ขอแสดงความยินดีกับพระสมเด็จและครอบครัวด้วย

เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ช่วยกันตามหา

พลตำรวจตรีถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า โดยในทางคดีนั้น ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไรแต่อย่างใดเพียงแต่เจ้าหน้าที่ร่วมติดตามค้นหาพระสมเด็จ ขณะที่ พระอำนาจ พระลูกวัดอีกคน ได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นเหตุล่อลวงฆาตกรรม ในเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ทำการ สอบสวนหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาใดๆ

ขณะที่ พระสมเด็จ ยังได้เล่ารายละเอียดถึงเหตุการร์ที่เกิดขึ้น ช่วงวันที่ 17 ธันวาคม 2561 โดยตั้งใจขึ้นไปเขาผาขี่ควาย ตั้งใจขึ้นไปสวดมนต์บนเขา ได้เดินตามพระอำนาจไปตลอดทาง แต่ร่างกายไม่แข็งแรง จึงเดินตามรั้งท้าย และตั้งใจจะเลี้ยวกลับลงไปวัดบ้านพร้าว

แต่ปรากฏว่าหลงทิศทางและหลงป่าในที่สุด ไม่สามารถหาทางออกมาได้ อาศัยเดินไกลบนเขาเข้าป่าไปเรื่อยๆ แวะกินหยวกกล้วย ปลีกล้วย ยอดหวาย บรรยากาศทุกทิศมีแต่ผืนป่า กระทั่งช่วงหนึ่งหลังจากเดินหลงป่ามาได้สัก 2-3 วัน ได้เจอกับผู้ชาย 2 คน ใส่ชุดหนังสีดำ บอกชี้ทางให้ไปอยู่ที่ถ้ำ

พระเด็จจึงตามชาย 2 คนดังกล่าวไป อีกทั้งยังบอกให้ไปรออยู่ในถ้ำ อีกไม่นานจะมีคนมารับกลับลงไป จากนั้นชายทั้งคู่ก็หายไปอย่างไร้ร่อยรอย และไม่ได้พบกันอีกเลย ส่วนภายในถ้ำก็น่าประหลาดใจมาก เพราะมีหม้อหุงต้มอยู่พร้อม เคราะห์ดีที่พระเด็จนำไฟแช็คติดตัวไป 5 อัน จึงใช้จุดไฟอาศัยอยู่ในถ้ำได้ ต้มหยวกกล้วยประทังชีวิต จนกระทั่งไฟแช็คหมดไป 4 อัน

กระทั่งเช้าวันนี้ประมาณ 02.30 น. ทีมค้นหาที่เป็นชาวบ้าน 4 คนก็มาพบเจอพระเด็จอยู่ภายในถ้ำ ก่อนจะพากลับลงมาข้างล่างได้อย่างปลอดภัย โดยหลังจากนั้น พระเด็จ จะกลับไปจำวัดต่อที่วัดบ้านพร้าวตามปกติ